posttoday

มหาเถรส่งชื่อ "สมเด็จช่วง" ให้รัฐบาลแล้ว เตรียมเสนอนายกฯ

14 มกราคม 2559

"สุวพันธุ์"เผย มหาเถรสมาคม ส่งชื่อ "สมเด็จช่วง" ให้รัฐบาลทูลเกล้าฯสถาปนาเป็นสังฆราชแล้ว เล็งหาข้อมูลรอบด้านก่อนชงนายกฯ ยันที่ประชุมไม่มีขัดแย้ง

"สุวพันธุ์"เผย มหาเถรสมาคม ส่งชื่อ "สมเด็จช่วง" ให้รัฐบาลทูลเกล้าฯสถาปนาเป็นสังฆราชแล้ว เล็งหาข้อมูลรอบด้านก่อนชงนายกฯ ยันที่ประชุมไม่มีขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 14 เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า พศ.ได้รับมติของกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ที่เห็นชอบนามของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพื่อส่งถึงรัฐบาลเพื่อนำความกราบบังคมทูลฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 เรียบร้อยแล้ว และได้ทำหนังสือส่งมาให้ตนในฐานะรัฐมนตรีเจ้าสังกัด โดยขณะนี้ตนได้รับหนังสือแล้ว

"มติของมส.เป็นมติที่เห็นชอบร่วมกันของกรรมการมส.ทุกรูป ไม่มีประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้งหรือมีปัญหาในมส."นายสุวพันธุ์กล่าว

หลังจากนี้ตนต้องดำเนินการตามขั้นตอนของรัฐบาล โดยเรียนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ก่อนที่ส่งให้นายกฯ สิ่งที่จะต้องทำเพิ่มเติมคือ จะหารือเพิ่มเติมกับพศ. คณะสงฆ์ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วน รอบด้าน เพียงพอที่นายกฯจะพิจารณา ส่วนระยะเวลาคงบอกไม่ได้ว่าจะนานแค่ไหน แต่จะทำไปตามกระบวนการ ตามประเด็นปลีกย่อย หรือประเด็นที่มีความจำเป็นที่นายกฯจะได้รับทราบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนที่มีการคัดค้านสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จะนำมาพิจารณาด้วยหรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ข้อมูลที่จะถึงนายกฯจะมีทุกประเด็น เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะทุกเรื่องที่เกี่ยวกับขั้นตอนก่อนกราบบังคมทูลฯ จะต้องมีข้อมูลรอบด้าน

เมื่อถามว่า จะส่งเรื่องถึงนายกฯเมื่อใด นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ว่าจะถึงเมื่อไร แต่ตอนนี้ความรับผิดชอบอยู่ที่ตน ที่ต้องดูว่าข้อมูลครบถ้วนรอบด้านแล้วหรือยัง ซึ่งหากตนอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม อาทิ จะไปพบกับใคร ควรจะเก็บประเด็นใดอีก ก็จะทำไปจนกว่าจะครบถ้วน และทุกอย่างจะทำอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อะไรที่พูดได้จะเล่าให้สังคมฟัง เพราะต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่คลุมเครือ

ต่อข้อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าหลังจากนี้กระแสต้านจะมากขึ้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า รอประเมินเป็นระยะ ซึ่งจากประสบการณ์ที่เป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติพอรู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง สำหรับเจตนาของตนมีอย่างเดียวเท่านั้นคือทำให้พระพุทธศาสนารุ่งเรือง ยั่งยืน มั่นคง อยู่กับสังคมไทย ไม่มีความเสียหาย