posttoday

รมว.ศธ.สั่งประชุมด่วนแก้ปัญหาบุคลากร "เอแบค" ขัดแย้ง

30 ธันวาคม 2558

"ดาว์พงษ์" สั่งประชุมจัดการความขัดแย้ง"เอแบค"ด่วน เตรียมใช้มาตรา 86 เข้าคุมเหตุการณ์ ส่งคณะกรรมการเข้าไปดูแล

"ดาว์พงษ์" สั่งประชุมจัดการความขัดแย้ง"เอแบค"ด่วน เตรียมใช้มาตรา 86 เข้าคุมเหตุการณ์ ส่งคณะกรรมการเข้าไปดูแล

นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัญหาของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) ที่มีความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้น โดยมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งของบุคลากรสองฝ่ายอยู่ข้างประตูรั้วมหาวิทยาลัยเอแบค วิทยาเขตหัวหมาก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของอุดมศึกษาไทยอย่างมาก เพราะระดับปัญญาชนไม่ควรจะใช้วิถีทางกระทบกระทั่ง แต่ควรใช้วิธีการพูดคุยเจรจากัน

นพ.กำจรกล่าวว่า กรณีดังกล่าว พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศธ. จึงได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) แจ้งกับคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ซึ่งมีอำนาจโดยตรงในการดูแลมหาวิทยาลัย จัดประชุมเพื่อพิจารณากรณีนี้อย่างเร่งด่วนว่ามีความรุนแรงถึงขั้นที่ ศธ. จะต้องเข้าไปควบคุมมหาวิทยาลัยแห่งนี้หรือไม่

ทั้งนี้คาดว่าคงจะประชุมได้ในวันที่ 4 ม.ค.2559 เพราะเวลานี้ติดช่วงวันหยุดราชการ และหากเรียกประชุมในช่วงนี้คณะกรรมการก็จะไม่ครบองค์ประชุม และก็จะไม่สามารถใช้อำนาจทางกฎหมายได้ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ขณะนี้เริ่มกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองแล้ว และเป็นภาพที่ไม่น่าดูเลย ซึ่งเราเป็นอุดมศึกษาต้องเป็นแบบอย่างของสังคม ไม่ใช่ใช้วิธีการรุนแรงแบบนี้

"อำนาจทางกฎหมายที่ ศธ. จะนำมาใช้ควบคุมมหาวิทยาลัยเอแบคได้คือ มาตรา 86 ตามพ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ซึ่งก่อนหน้านี้ รมว.ศึกษาธิการ เคยนำมาใช้ควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน ในปี 2554 เพื่อแก้ไขปัญหาการขายใบประกาศนียบัตรวิชาชีพครูมาแล้ว โดยการดำเนินการนั้น จะมีคณะกรรมการเข้าไปดูแลอย่างน้อย 5 คน เพื่อไปดูแลเรื่องต่างๆ ของมหาวิทยาลัย และหากเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติก็จะคืนมหาวิทยาลัยให้กลับไปดูแลดังเดิม ดังนั้น รมว.ศึกษาธิการ จึงต้องเร่งให้ กกอ. รีบประชุม เพราะ รมว.ศึกษาธิการ ไม่มีอำนาจโดยตรง และหาก กกอ. มีมติไฟเขียวให้ใช้มาตรา 86 ได้ ทางรมว.ศึกษาธิการ ก็จะสามารถใช้อำนาจนั้นได้ตามคำแนะนำของ กกอ."นพ.กำจรกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ ซึ่งยังเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ หากมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางมหาวิทยาลัยจัดการดูแลกันไปเองก่อน เพราะ ศธ. คงไม่ได้มีหน้าที่ลงไปดูมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งตราบใดที่เรายังไม่มีอำนาจจากตัวกฎหมาย เราก็จะยังไม่สามารถลงไปจัดการได้ อย่างไรก็ตามในอนาคตอาจต้องมีการปรับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการเหล่านี้รวดเร็วยิ่งขึ้น