posttoday

ตร.แถลงคดีเกาะเต่ายึดหลักฐานขอมั่นใจกระบวนการยุติธรรม

27 ธันวาคม 2558

โฆษกตำรวจแถลงการทำคดีเกาะเต่ายึดตามหลักสากล ยึดพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ขอชาวเมียนมามั่นใจกระบวนการยุติธรรมไทย

โฆษกตำรวจแถลงการทำคดีเกาะเต่ายึดตามหลักสากล ยึดพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ขอชาวเมียนมามั่นใจกระบวนการยุติธรรมไทย

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษก ตร. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. พล ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองต่างประเทศ (ผบก.ตท.) พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา (ผบก. นต.) พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.สพฐ.) พ.ต.อ. สันติ ชัยนิรามัย ผู้กำกับการ4 กองบังคับการปราบปราม (ผกก. 4 บก.ป.) พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผู้กำกับการสถานีภูธรเกาะพะงัน (ผกก.สภ.เกาะพะงัน) ร่วมกันแถลงชี้แจงกระบวนการและขั้นตอนการดำเนินคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิต 2 ผู้ต้องหาชาวเมียนมา

พล.ต.อ.เดชณรงค์กล่าวว่า ขอชี้แจงต่อสื่อมวลชนผ่านไปยังประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยตำรวจยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเหตุเป็นไปอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ เป็นไปตามมาตรฐานสากล และมีผู้สังเกตการณ์จากนานาประเทศเข้าร่วม โดยเฉพาะการทำงานของเจ้าหน้าที่ของไทยถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากประเทศอังกฤษซึ่งมีมาตรฐานเรื่องการสืบสวนสอบสวนและเป็นประเทศผู้เสียหายอีกด้วย

พล.ต.เดชณรงค์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งคณะกรรมการสืบสวนชุดใหญ่ขึ้นมาเพื่อดูแลคดีนี้ โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ขณะนั้สเป็นหัวหน้าชุด อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบุคคลบางกลุ่มยังไม่เข้าใจ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องชี้แจงต่อสื่อมวลชนตามลำดับ 

ทีมสอบสวนได้ร่วมทำคดีตั้งแต่ได้รับแจ้งเหตุ เข้าไปถึงที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหุตุทุกส่วนตามขั้นตอน และได้นำพยานในที่เกิดเหตุทั้งพยานวัตถุ พยานบุคคล เข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้อัยการกระทั่งมีการพิสูจน์ในชั้นศาลออกมา จึงขอยืนยันว่าพนักงานสอบสวนทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง โดยคดีนี้มีเป็นคดีร้ายแรงและมีผู้ต้องหาและผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติ มีอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ซึ่งตามกฎมายต้องให้ทนายความและล่ามแปลภาษาเข้าร่วมสอบสวนทุกขั้นตอน 

ขณะที่พล.ต.ต. อภิชาติ กล่าวว่า ประเทศพม่ากับไทยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอยู่แล้ว เช่นเดียวกันประเทศอังกฤษก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทย การดำเนินการของทางการไทยจึงต้องเป็นไปอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

พ.ต.อ. สันติ  กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ให้ร่วมกระบวนการสืบสวนในพื้นที่และควบคุมการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด โดยตีกรอบพื้นที่เกิดเหตุตามแนวชายหาดไม่ต่ำกว่า 1.6 กิโลเมตร และลึกเข้าไปในแผ่นดินไม่ต่ำกว่า 500 เมตร ได้แสวงหาพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล และพยานวัตถุ ทั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงการเข้าไปซักถามบคคุลที่เกี่ยวข้องในที่เกิดเหตุทั้งหมด โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และเรือประมงทุกคน

พ.ต.อ.สันติกล่าวว่า ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุไม่น้อยกว่า 360 ตัวอย่าง ขณะที่กล้องวงจรปิดเก็บภาพมาไม่น้อยกว่า 400 ตัว ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถใช้ประกอบการพิจารณาของศาล ส่วนดีเอ็นเอเป้าหมายนั้นวางกรอบในการตรวจสอบตั้งแต่แรก นอกจากนี้ตำรวจสามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไว้ได้จนนำไปสู่การพิสูจน์ตัวผู้ต้องหาร่วมกับดีเอ็นเอได้

ด้าน  พล ต.ท.มนู กล่าวว่า สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ได้เข้าร่วมตรวจพื้นที่เกิดเหตุตั้งแต่แรก ขอยืนยันว่าการเก็บวัตถุพยานต่างๆเป็นไปตามมาตราฐานสากล มีขั้นตอนที่ชัดเจนตามระเบียบทุกอย่าง 

พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า กองพิสูจน์หลักฐาน 8 จ.สุราษฎร์ธานี ได้เข้าไปร่วมเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุทุกอย่างป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง มีเพียงส่วนเดียวคือสถานที่เกิดเหตุเป็นทะเลมีน้ำขึ้นมาจึงต้องเคลื่อนย้ายศพผู้ตายเพื่อตรวจสอบ แต่ขั้นตอนทั้งหมดถูกต้องแน่นอน

หลังจากนั้น 1 วัน ได้นำพยานหลักฐานมาตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางที่กรุงเทพฯ ประกอบด้วย ก้นบุหรี่ ซึ่งตำรวจได้โปรไฟล์ของดีเอ็นเอตั้งต้นจากศพ ปรากฏว่าเข้ากันได้กับดีเอ็นเอจากก้นบุหรี่ จึงทำให้การสืบสวนมีการเชื่อมโยงระหว่างจุดที่พบศพ กับจุดที่พบจอบ และจุดที่พบก้นบุหรี่ จึงพอทราบได้ว่าสิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกัน จนกระทั่งนำดีเอ็นเอของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนี้มาเทียบกับดีเอ็นเอจากก้นบุหรี่และดีเอ็นเอจากร่างกายผู้ตายปรากฏว่าตรงกัน

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า มีการตรวจสอบศพผู้ตายโดยละเอียดเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอ พบว่ามีดีเอ็นเอแปลกปลอมอยู่ในร่างกายศพทั้ง 2 รายในจุดสำคัญของร่างกาย จึงเก็บดีเอ็นเอนั้นเอาไว้เพื่อใช้เป็นโปรไฟล์ตั้งต้นเพื่อนำดีเอ็นเออื่นๆมาตรวจเทียบเคียง

"ทุกขั้นตอนเป็นไปตามหลักสากลถูกต้อง และเราได้หลักฐานจากผู้เสียชีวิตมาทั้งหมดเพื่อใช้เทียบเคียงกับหลักฐานวิทยาศาสตร์จากผู้ต้องหา ทุกกระบวนการตรวจสอบมีมาตรฐานของห้องปฏิบัติการควบคุมอยู่และทั่วโลกรับรองมาตรฐานนี้ ซึ่งต่างชาติก็พอใจการทำงานครั้งนี้ของไทย"พล.ต.ต.พรชัยกล่าว 

ขณะที่พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบสถานการณ์ตอนนี้พบว่ามีคนบางกลุ่มบางพวกได้นำสถานการณ์หลังศาลมีคำพิพากษาคดีนี้ไปปลุกระดมผู้คนออกมาชุมนุมต่อต้านคำตัดสินของศาลขึ้น รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าจะบานปลายกระทบไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

"ทีมโฆษก ตร. จึงต้องการสื่อไปถึงประชาชนทุกคนว่าอย่าตกเป็นเหยื่อของคนกลุ่มนี้ และขอร้องกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในตอนนี้ว่าโปรดอย่านำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะเรื่องนี้เป็นเพียงคดีฆาตกรรมที่เป็นคดีของปัจเจกบุคคล ไม่อยากให้นำมาโยงกับเรื่องการเมืองอย่างที่กำลังทำอยู่"พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าว 

ทั้งนี้ระบบยุติธรรมของประเทศไทยเป็นระบบกล่าวหา จึงมีการถ่วงดุลตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน เมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้นก็จะถึงชั้นพนักงานอัยการซึ่งก็มาถ่วงดุลพนักงานสอบสวนอีกชั้นหนึ่ง เพราะตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวนทั้งหมดจะไม่ใช่ผู้กล่าวหา แต่จะกลายเป็นพยาน ขณะที่อัยการจะเป็นโจทย์แทนเพื่อนำฟ้องต่อศาล เมื่อถึงศาลศาลก็ทำการไต่สวนใหม่อีกรอบหนึ่ง และยังมีอีก 3 ศาลทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา จึงขอยืนยันว่ากระบวนการสอบสวนของเราไม่มีการเบี่ยงเบนได้แน่นอน อีกทั้งการสอบสวนคดีนี้ชัดเจนมาก เพราะเป็นการพิจารณาตัดสินจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งสากลยอมรับและโกหกกันไม่ได้

พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า ในรอบปี 2558 ที่ผ่านมา มีคดีที่ชาวเมียนมาในประเทศไทยกระทำความผิดในข้อหาฆ่าผู้อื่นมากถึง 126 คดี จึงอยากตั้งคำถามว่าทำไมคดีพวกนี้ไม่มีใครออกมาต่อต้านหรือประท้วง จึงน่าสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคดีนี้ แสดงว่ามีการก่อเหตุประเภทนี้จำนวนมากแต่กลับไม่มีใครออกมา แต่พอมาคดีนี้กลับมีการต่อต้านขึ้น จึงเป็นไปได้ว่าจะเป็นความพยายามออกมาเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบสืบสวนหาข่าวในเชิงลึกหากพบมีใครเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตำรวจกำลังหาข้อมูลในเชิงลึกอยู่หากพบใครเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการแน่นอน และฝากเตือนประชาชนชาวเมียนมาด้วยว่าขอให้อย่าตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนเหล่านี้ เพราะคดีนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ขั้นตอนจากนี้สามารถต่อสู้ในชั้นศาลได้ถึง 2 ชั้น 

สำหรับการรื้อคดีใหม่ คงไม่สามารถทำได้อีก แต่ยืนยันกระบวนการยุติธรรมของไทยได้มาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับทั่วโลก และหลักฐานทั้งหมดก็เป็นหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ไม่สามารถโกหกได้ ดีเอ็นเอน่าเชื่อถือกว่าคำให้การของคน อีกทั้งคนไทยพอไปกระทำผิดในต่างประเทศก็ใช้กระบวนการยุติธรรมของประเทศนั้นๆตัดสินเช่นกัน 

พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ดีเอ็นเอของผู้ตายมาก่อนที่จะได้ดีเอ็นเอจากผู้ต้องหามาเปรียบเทียบ มันจึงไม่สามารถเอาไปยัดใส่ได้แน่นอน กระบวนการตรวจสอบมันชัดเจนกระจ่างชัดมากแล้ว

ระหว่างการแถลงข่าว พล.ต.อ.เดชณรงค์ ได้ถามพ.ต.อ.ประชุม ในฐานะตัวแทนพนักงานสอบสวนคดีถึงการรวบรวมพยานหลักฐานไปส่งให้อัยการพิจารณา ซึ่ง พ.ต.อ.ประชุมตอบว่า หลังพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้อัยการแล้วก็ไม่ได้ส่งฟ้องต่อศาลทันที เพราะอัยการได้สั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมอีก 3 ครั้งเพื่อให้สำนวนเกิดความรอบคอบรัดกุมมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการถ่วงดุลกันของเจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายที่รับผิดชอบคดีนี้ 

พ.ต.อ.ประชุม กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่ชั้นศาลนั้นจำเลยได้ให้การปฏิเสธ ซึ่งจำเลยทั้ง 2 คน ได้จ้างทนายความมาว่าความรวมทั้งหมด 7 คน ซึ่งเป็นทนายความที่มาจากส่วนกลางและเป็นมือชั้นเยี่ยมทั้งหมด ทำให้เห็นว่าศาลได้ให้โอกาสจำเลยในการสู้คดีอย่างเต็มที่แล้ว โดยคำพิพากษาของศาลไม่ได้พูดถึงคำรับสารภาพในชั้นสอบสวนของผู้ต้องหาเลยแต่ใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น

พ.ต.อ.ประชุม กล่าวว่า  ยินดีให้ทุกฝ่ายเข้ามาตรวจสอบในทุกกระบวนการ และไม่รู้สึกกดดันแม้แต่น้อย เพราะมั่นใจว่าทำทุกอย่างไปตามพยานหลักฐานทั้งสิ้น  เช่น ประเด็นที่มีบางฝ่ายพูดว่าตำรวจไม่นำดีเอ็นเอที่จอบใส่ไปในสำนวน ซึ่งความจริงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะมีการนำผลดีเอ็นเอที่จอบใส่ในสำนวนให้ศาลพิจารณาแล้ว 

สำหรับข้อต่อว่าตำรวจซ้อมผู้ต้องหานั้น ยืนยันว่า ตั้งแต่จับกุมคนร้ายได้ให้แพทย์มาตรวจร่างกายผู้ต้องหา ปรากฎว่ายังร้องเพลงเล่นกีต้าร์ได้ ตำรวจมีภาพถ่ายและหลักฐานทุกอย่างยืนยันได้ทุกขั้นตอน ฉะนั้นจะสังเกตได้ว่าถ้ามีการซ้อมจริงก็คงทิ้งร่องรอยไว้บ้าง อีกทั้งปี 2557 หากใช้วิธีซ้อมทรมานผู้ต้องหาอยู่อีกก็ถือว่าล้าหลังมาก ถ้าซ้อมมาได้ข้อมูลไม่จริงก็ต้องไม่จริงอยู่แล้ว ของจริงวันนี้มันจึงมีคำตัดสินแบบนี้ 

พ.ต.อ.ประชุมกล่าวว่า ผู้ต้องหารับสารภาพในชั้นสอบสวน พอนำตัวไปฝากขังครั้งแรกผู้ต้องหายังรับสารภาพอยู่ ครั้งที่สองผู้ต้องหาก็ยังรับสารภาพ ทนายฝ่ายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมขอให้สอบเพิ่มเติม ช่วงที่ตำรวจไปสอบเพิ่มเติมก็มีทนายจำเลยไปด้วย ทนายความคนเดียวกันก็ขึ้นเบิกความต่อศาลด้วยว่าจำเลยสารภาพอยู่เลย แม้แต่การมาตรวจสอบขององค์กรต่างๆก็ยังมีการแถลงข่าวว่าจำเลยก็รับสารภาพอยู่ กระทั่งมีการกลับคำให้การในภายหลัง

พล.ต.ต.ธวัชชัยกล่าวถึงดีเอ็นเอที่จอบเพิ่มเติมว่า การดำเนินการครั้งแรกนั้นทนายความของจำเลยอาจเข้าใจว่ามีผู้ให้ข่าวว่าการตรวจดีเอ็นเอบนจอบไม่ตรงกับจำเลยทั้ง 2 คน ข้อเท็จจริงคือจากการตรวจสอบของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์พบว่ามีดีเอ็นเอของผู้ชาย 2 คนบนด้ามจอบ แต่ปรากฏว่าเมื่อดูรายละเอียดแล้วเป็นโปรไฟล์ที่ตรงกัน คนหนึ่งคือของผู้ตายคือนายเดวิด

ส่วนดีเอ็นเออีกตัวนั้นเป็นไมเนอร์โปรไฟล์ คือเป็นดีเอ็นเอที่เข้ากันได้กับจำเลยรายหนึ่ง แต่ไม่สามารถยืนยันตามหลักทฤษฎีได้ทั้ง 16 ตำแหน่ง เพราะได้แค่ 5 ตำแหน่ง แปลว่าดีเอ็นเอของด้ามจอบกับจำเลยเข้ากันได้ แต่ยืนยันไม่ได้ แต่ก็ไม่สามารถตัดว่าจำเลยคนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมไปได้ แต่จะยืนยันว่าจำเลยเกี่ยวข้อง 100 เปอร์เซ็นไม่ได้ แต่ก็มีดีเอ็นเอส่วนอื่นๆในการพิสูจน์        

"สถานที่เกิดเหตุมีน้ำขึ้นมาจนทำให้ดีเอ็นเอที่จอบถูกชะไป ทำให้การตรวจสอบไม่สามารถยืนยันได้ เราจึงไม่นำมาใช้ยืนยันตัวผู้กนะทำผิดครั้งนี้"พล.ต.ต.ธวัชชัยกล่าว