posttoday

ปปง.ลุยสอบเส้นทางเงิน "ปรากรม" พร้อมพวก 8 คน

29 ตุลาคม 2558

ปปง.แถลงเดินหน้าตรวจสอบเส้นทางการเงิน "ปรากรม" พร้อมพวก 8 คน เบื้องต้นพบในปี 57-58 มีธุรกรรม148ครั้งวงเงิน 1 แสน-1ล้านบาท

ปปง.แถลงเดินหน้าตรวจสอบเส้นทางการเงิน "ปรากรม" พร้อมพวก 8 คน เบื้องต้นพบในปี 57-58 มีธุรกรรม148ครั้งวงเงิน 1 แสน-1ล้านบาท

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. เวลา 15.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง.แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 14/2558 เรื่อง บก.ปอศ.มีหนังสือมายัง ปปง.ให้ตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ผู้ต้องหาคดีความผิดตามมาตรา 112 กับพวกรวม 8 คน โดยใน 8 คน มี นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง และ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ เลขาส่วนตัว ของนายสุริยัน รวมอยู่ด้วย ส่วนนรายอื่นๆ ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ แต่มี พ.ต.ต.ปรากรม เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเพียงคนเดียวนอกนั้นเป็นพลเรือน

พ.ต.อ.สีหนาท เผยว่า ทางปปง.หลังจากได้รับการประสานจากตำรวจ ก็ดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนนำเรื่องดังกล่าวเข้าประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ปปง.ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และการทำธุรกรรมของ พ.ต.ต.ปรากรม กับพวกรวม 8 ราย

"จากการสืบสวนทราบว่า พ.ต.ต.ปรากรม กับพวกมีพฤติการณ์ร่วมกันอันเชิญการ์ดทรงขอบคุณ ผู้มีส่วนร่วมในกิจกรรม Bike for mom ไปมอบให้กับบุคคลต่างๆ โดยแสดงให้ปรากฏทางคำพูด การกระทำ และเชิงสัญลักษณ์ ว่าเป็นผู้แทนพระองค์ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ไม่ได้มีตำแหน่ง หรือหน้าที่เกี่ยวข้องกับการอันเชิญการ์ดทรงขอบคุณ แต่ร่วมกับผู้ต้องหารายอื่น กระทำเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหน้าที่นั้น เพื่อให้ตนเองได้รับประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฏหมาย จึงมีพฤติการณ์เป็นเจ้าพนักงานรัฐปฎิบัติหน้าที่ อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาผลประโยชน์สำหรับตนเองและผู้อื่น การกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม ม.3(5) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฏหมายอาญา และมีเหตุอันควรเชื่อว่า พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก อาจได้ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังนั้นคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณา ปปง. ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และการทำธุรกรรมทรัพย์สินของ พ.ต.ต.ปรากรมกับพวกรวม 8 ราย และผู้ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับบุคคลดังกล่าว" พ.ต.อ.สีหนาท กล่าว

พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า เบื้องต้นจากการใช้เวลาตรวจมา 1-2วันที่ผ่านมาพบว่า พ.ต.ต.ปรากรม มีการทำธุรกรรมทางการเงินช่วง ม.ค.57-ต.ค.58 จำนวน 148 ธุรกรรม โดยมีการทำธุรกรรมทางการเงินตั้งแต่หลัก 1 แสน- 1 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท นอกจากนี้จากการตรวจสอบข้อมูลการถือครองยานพาหนะ 20 รายการ แบ่งเป็น รถยนต์ 12 คัน จักรยานยนต์ 8 คัน ส่วนกรณีมีบุคคล ห้างร้าน หรือกลุ่มธุรกิจมีการโอนเงินให้ ต้องเข้าใจว่า กลุ่มดังกล่าวอาจมีความเข้าใจผิดว่า พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก นั้นมีหน้าที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นยังไม่ถือว่ามีความผิด โดยกลุ่มดังกล่าวเข้าข่ายเชื่อโดยสุจริตใจ แต่ ปปง.อาจเรียกมาสอบถามข้อมูล นอกนั้นกรณีญาติพี่น้อง พ.ต.ต.ปรากรม หากคิดว่าทรัพย์สินส่วนใดอาจเกี่ยวข้องกับคดี และได้มาโดยมิชอบ ไม่ได้มาจากธุรกิจที่สุจริต ก็สามารถนำมาให้ ปปง.ตรวจสอบได้ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ หลังจากนี้ ปปง.จะทำหน้าที่ตรวจสอบควบคู่ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนของกลางที่ตำรวจยึดได้จากพ.ต.ต.ปรากรม กับพวก ปปง. ทราบหรือไม่ว่าเป็นของกลางของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผบช.ก.  พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะของกลางที่ ปปง. ได้รับก่อนหน้านี้ เป็นการส่งมอบจากเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ หลังมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกแล้ว ประมาณ 2 เดือน ก่อนจะนำทรัพย์สินและบัญชีแสดงทรัพย์สินที่ยึดอายัดได้มามอบให้กับ ปปง.ทั้งนี้ตนได้เห็นทรัพย์สินดังกล่าวพร้อมกับสื่อมวลชน