posttoday

เผยพฤติกรรม3ผู้ต้องหาอ้างใกล้ชิดสถาบัน-เรียกผลประโยชน์

21 ตุลาคม 2558

เผยพฤติกรรม "หมอหยอง" พร้อมพวก แอบอ้างให้ประชาชนเข้าใจว่าใกล้ชิดสถาบัน-เรียกรับผลประโยชน์

เผยพฤติกรรม "หมอหยอง" พร้อมพวก แอบอ้างให้ประชาชนเข้าใจว่าใกล้ชิดสถาบัน-เรียกรับผลประโยชน์

เมื่อวันที่ 21 ต.ค.เจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยพฤติกรรมของผู้ต้องหา 3 คนในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ได้คุมตัวมาฝากขังต่อศาลทหารกรุงเทพว่า ด้วยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ตรวจพบว่า มีกลุ่มบุคคลร่วมกันกระทำผิดโดยมีพฤติการณ์แอบอ้าง หรือ แสดงออกในลักษณะต่างกรรมต่างวาระกัน เพื่อให้ประชาชนหรือบุคคลโดยทั่วไปเข้าใจว่า ตนเองมีความใกล้ชิดกับสถาบันเบื้องสูง และได้เรียกหรือรับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งได้กระทำความผิดตามกฎหมายอื่นๆ อีกหลายฐานความผิด การกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันฯ และความเสียหายอื่นๆในวงกว้าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร ได้ใช้อำนาจตามคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 เรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเพื่อสอบถามข้อมูลและควบคุมตัวไว้

จากการซักถามพบว่ามีมูลกระทำผิดจริง จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย คสช. มาแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ฐาน "หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์"ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112

สำนักงานตำรวจแห่งชาจิ โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งที่ 578/2558 ลงวันที่ 16 ต.ค. 2558 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้า และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เป็นรองหัวหน้า กับพวก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัดและเชื่อได้ว่า กลุ่มบัคคลที่ร่วมกระทำความผิด ประกอบด้วย

1.นายสุริยัน สุจริต พลวงศ์ อายุ 53 ปี ข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ฯ

2.นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ อายุ 39 ปี ข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ฯ

3.พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา อายุ 44 ปี ข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครอง, มีใช้ซึ่งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และตั้งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม

พนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุมัติศาลทหารกรุงเทพ และศาลได้อนุมัติออกหมายจับบุคคลดังกล่าว ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาวันนี้ (21ต.ค.58) ครบกำหนดควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร ได้ส่งตัวบุคคลดังกล่าวมอบให้พนักงานสอบสวน จึงได้แจ้งข้อหาและจับกุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดี จากการสอบสวนผู้ต้องหา นายสุริยัน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่เหลือให้การปฏิเสธ หลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วพนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลทหารกรุงเทพ