posttoday

การเคหะฯขยายเปิดจองบ้านยั่งยืนฟรีค่าธรรมเนียมโอน

25 กันยายน 2558

การเคหะฯขยายเวลาเปิดจองบ้านยั่งยืน กว่า 6,300 ยูนิตรับสิทธิพิเศษถึงสิ้นปี เงินจอง 1,000 บาท ฟรีค่าธรรมเนียมโอน

การเคหะฯขยายเวลาเปิดจองบ้านยั่งยืน กว่า 6,300 ยูนิตรับสิทธิพิเศษถึงสิ้นปี เงินจอง 1,000 บาท ฟรีค่าธรรมเนียมโอน

พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย เกี่ยวกับโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาล หรือ “โครงการบ้านยั่งยืน” ว่า หลังจากที่การเคหะแห่งชาติ (กคช.)ได้เปิดให้ลงทะเบียนจองโครงการบ้านยั่งยืน และอาคารชุดพร้อมอยู่ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 239 โครงการ 13,393 ยูนิต ถึงปัจจุบัน(25 ก.ย.) มีประชาชนสนใจจองและยื่นเอกสารครบแล้วทั้งสิ้น 7,012 ยูนิต ส่วนอีก 6,381 ยูนิต ยังคงเปิดให้ประชาชนจองต่อเนื่อง โดยได้สิทธิพิเศษสำหรับการจองจนถึงสิ้นปี 2558 คือ เงินจอง 1,000 บาท ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน และแถมมุ้งลวดเหล็กดัด

“โครงการบ้านยั่งยืนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการการดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตและลดความเหลื่อมล้ำให้กับพี่น้องประชาชน สร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่พักอาศัยที่ของตัวเอง ได้มาตรฐาน ในราคาที่สามารถผ่อนชำระได้ เดินทางสะดวก และอยู่ในย่านปลอดภัย โดยโครงการที่เปิดจองนี้สามารถเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องรอการก่อสร้าง"

สำหรับสถานที่ที่เปิดจอง กำหนดไว้เป็นสำนักงานที่ดูแลชุมชนที่มีโครงการเปิดขายกว่า 80 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถนำเอกสารไปลงทะเบียนจองได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. โดยรายละเอียดเบื้องต้น สามารถติดต่อสอบถามข้อมูล ทำเล และ ราคา ได้ที่สายด่วนการเคหะแห่งชาติ 1615 กด 2 หรือ0-2351-7777

พลตรีสรรเสริญ กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากบ้าน และอาคารชุดพร้อมอยู่ข้างต้นแล้ว ยังมีโครงการใหม่ที่การเคหะฯอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอีกหลายโครงการในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล สำหรับผู้มีรายได้น้อยราคาตั้งแต่ 5 – 7 แสนบาท และรายได้ปานกลางราคาประมาณ 1 –  4 ล้านบาท อาทิ อาคารชุดในพื้นที่ปริมณฑล บริเวณตลาดไท จ.ปทุมธานี  ราคาตั้งแต่ 7.1-7.4 แสนบาท เทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ ราคา 5.5- 6.5แสนบาท ประชาอุทิศ จ.นนทบุรี ราคา 5.3-6.7 แสนบาท 
อาคารชุด 7 ชั้น ในกรุงเทพมหานคร บริเวณนวมินทร์ ราคาตั้งแต่ 1.8-2.3 ล้านบาท และทาวน์เฮ้าส์ บริเวณร่มเกล้า ราคา 3.1-3.6 ล้านบาท เป็นต้น โดยผู้สนใจสามารถขึ้นทะเบียนจองยังสำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ และสำนักงานสาขาประจำพื้นที่ได้ ซึ่งโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จอีกประมาณ 2 ปี.