posttoday

"วิสาร"พาน้องร้องกองปราบถูกยกเค้าสูญ40ล.

21 สิงหาคม 2558

อดีต รมช.มหาดไทย นำน้องสาวร้องเรียน กองปราบ บ้านในจ.เชียงรายถูกยกเค้า สูญ 40 ล้านบาท แต่คดีไม่คืบหน้า

อดีต รมช.มหาดไทย นำน้องสาวร้องเรียน กองปราบ บ้านในจ.เชียงรายถูกยกเค้า สูญ 40 ล้านบาท แต่คดีไม่คืบหน้า

วันที่ 21 ส.ค. นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ทพ.ญ.ปรียาพร เตชะธีราวัฒน์ อายุ 44 ปี น้องสาว เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ขอให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านพักเลขที่ 488/1 ถนนรัตนาเขต ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ของ น.พ.สมบูรณ์ เตชะธีราวัฒน์ อายุ 71 ปี ข้าราชการบำนาญ หัวหน้าฝ่ายนิติเวช รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และนางศรีสง่า เตชะธีราวัฒน์ อายุ 68 ปี ผู้พิพากษาสมทบ ศาลเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย บิดาและมารดาของ นายวิสาร และ ทพญ.ปรียาพร โดยทำหนังสือร้องทุกข์ ภาพถ่ายและเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวน
 
นายวิสาร กล่าวว่า เหตุคนร้ายบุกเข้ามางัดบ้านพักหลังดังกล่าว และโจรกรรมทรัพย์สินก่อนหลบหนีไปเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ลงมืองัดแงะเข้าไปภายในบ้านพัก ก่อนจะเปิดตู้เซฟ รื้อค้นทรัพย์สินมีค่า ซึ่งคนร้ายได้เงินสดและทรัพย์สินต่างๆ ที่อยู่ในตู้เซฟรวมเป็นมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีพระเครื่องอีกหลายรายการที่ประเมินมูลค่าไม่ได้สูญหายไปด้วย อย่างไรก็ตามภายหลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย แต่หลังจากเวลาล่วงเลยมากว่า 10 วัน แล้วคดียังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร โดยเฉพาะการเร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ทั้งที่มีรายละเอียดและเบาะแสเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยมากพอสมควร
 
นายวิสาร กล่าวต่อว่า สำหรับบ้านพักที่เกิดเหตุของบิดามารดาตนนั้น ตั้งอยู่ติดกับบ้านพักของ พล.ต.ต.วีรวุธ เมียงน้อย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ยังอยู่ตรงข้ามกับที่ตั้ง สภ.เมืองเชียงราย อีกด้วย จึงไม่คาดคิดว่าคนร้ายจะกล้าลงมืออย่างอุกอาจ ซึ่งตนไม่ได้คิดจะตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่เพราะเข้าใจว่ามีภารกิจค่อนข้างเยอะเพียงแต่ตั้งข้อสังเกตเท่านั้น และกำลังเจ้าหน้าที่ก็มีค่อนข้างน้อย จึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องทุกข์กับกองปราบปราม เพื่อขอให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายอีกทางหนึ่ง
 
 “สำหรับผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นคนที่รู้ความเคลื่อนไหวของคนในบ้าน รวมทั้งรู้จุดที่ตั้งของตู้เซฟ และบริเวณที่เก็บทรัพย์สินมีค่าเอาไว้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีความชำนาญพอสมควรเนื่องจากคนร้ายเข้าไปงัดแงะจากด้านหลังบ้าน ก่อนจะมุ่งตรงไปที่ห้องนอนเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นจุดที่วางตู้เซฟและทรัพย์สินมีค่า โดยไม่ได้เข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินในห้องพระ หรือห้องอื่นๆ ประกอบกับช่วงที่คนร้ายก่อเหตุมีการสวมถุงมือ เพื่อป้องกันร่องรอยลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุอีกด้วย” นายวิสาร กล่าว
 
อดีต รมช.มหาดไทย กล่าวอีกว่า ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุประมาณ 2-3 วัน ที่มีช่างซ่อมโทรทัศน์ประมาณ 3 คน เป็นชาย 2 และหญิง 1 คน ได้มาซ่อมเปลี่ยนเครื่องโทรทัศน์ในบ้านพักดังกล่าว ซึ่งช่วงเวลาเกิดเหตุมีหนึ่งในช่างซ่อมติดต่อมาหาบิดาตนว่าจะมาเก็บเงินค่าซ่อม แต่เนื่องจากบิดาและมารดาตนติดงานอยู่ที่คลินิกใน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุพอสมควร จึงบอกขอเลื่อนให้มาเก็บเงินภายหลัง จึงอาจเป็นเหตุให้รู้ว่าที่บ้านไม่มีใครอยู่ตอนนั้น.