posttoday

กรมศิลป์สั่งรื้อ "ศาลาราย" 2หลังวัดกัลยาณมิตร

22 กรกฎาคม 2558

กรมศิลปากร เอาจริง สั่งรื้อศาลาราย 2 หลังวัดกัลยาณมิตร เหตุวัดรื้อโบราณสถานขึ้นทะเบียนแล้วสร้างศาลาแทน โดยไม่ได้รับอนุญาต

กรมศิลปากร เอาจริง สั่งรื้อศาลาราย 2 หลังวัดกัลยาณมิตร เหตุวัดรื้อโบราณสถานขึ้นทะเบียนแล้วสร้างศาลาแทน โดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร แถลงว่า การที่กรมศิลปากรต้องดำเนินการรื้อถอนศาลาราย 2 หลังในวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง และเพื่ออนุรักษ์โบราณสถานที่มีคุณค่าให้อยู่กับชาติไทยตลอดไป โดยจะเข้าทำการรื้อถอนในวันที่ 24ก.ค.

สำหรับ ศาลาราย 2 หลังด้านหลังวิหารหลวง ที่กรมศิลปากรจะรื้อถอน เป็นของสร้างใหม่ แทนศาลาเสวิกุล ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2450 และศาลาทรงปั้นหยา ที่สร้างเมื่อ 2450 ซึ่งทั้งศาลาเสวิกุล และศาลาทรงปั้นหยาได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานมานานแล้ว

"การปฏิบัติการรื้อครั้งนี้ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับปัญหาบ้าง แต่ก็ไม่หนักใจเพราะยึดตามกฎหมาย และการทำหน้าที่ของกรมศิลปากร ก็คล้ายกับกรมป่าไม้ ที่สั่งรื้อรีสอร์ตต่างๆ ที่บุกรุกป่า ถ้ากรมป่าไม้ไม่เด็ดขาด ป่าไม้ก็จะไม่หลงเหลือ กรณีที่กรมศิลปากรรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในเขตโบราณสถาน เช่นที่วัดกัลยาณมิตรก็มีนัยเดียวกัน" นายบวรเวท กล่าว

ทั้งนี่้ วัดกัลยาณมิตร เป็นวัดโบราณ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2368 โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่นวัดพนัญเชิง

วัดกัลยาณมิตร มีโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 89 แห่ง แต่วัดได้ดำเนินการรื้อหลายแห่ง ส่วนมากเป็นกุฏิ ซึ่งกรมศิลปากรแจ้งความดำเนินคดีอาญามาตั้งแต่ พ.ศ. 2546 รวม 16 คดี  แต่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง 10 คดี   รื้อทำลายโบราณสถาน 26 รายการอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง 14 รายการ  เหลือ 12 รายการที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี

สำหรับการเข้ารื้อถอนวันที่ 24 ก.ค.นี้ ทางกรมศิลปากรได้มีหนังสือแจ้งไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่วัดลงนามรับหนังสือดังกล่าวแล้ว