posttoday

บุตรสาวเชื่อคนใกล้ชิดฆ่า "สมยศ"

03 กรกฎาคม 2558

บุตรสาว "สมยศ" เชื่อบุคคลใกล้ชิดฆ่าพ่อ เผยรู้ว่ามีผู้ปองร้าย ขณะที่ภรรยามั่นใจปมสังหารมี 2-3 เรื่อง

บุตรสาว "สมยศ" เชื่อบุคคลใกล้ชิดฆ่าพ่อ เผยรู้ว่ามีผู้ปองร้าย ขณะที่ภรรยามั่นใจปมสังหารมี 2-3 เรื่อง

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นางรัศมี สุธางค์กูร อายุ 53 ปี และน.ส.ณัฐธิดา สุธางค์กูร อายุ 25 ปี ภรรยาและบุตรสาวของ นายสมยศ สุธางค์กูร อายุ 62 ปี อดีตเจ้าของสถานบันเทิงพระราม 9 คาเฟ่ที่ถูกยิงจนเสียชีวิต เข้าพบ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รองผบก.ป.) เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีดังกล่าว

นางรัศมี เปิดเผยว่า ส่วนตัวยังเชื่อว่าประเด็นสังหารนายสมยศ มีเรื่อง 2 ถึง 3 เรื่อง ทั้งเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่ติดหนี้พนัน เรื่องที่ดิน หรือคดีความครองครองปรปักษ์ ที่มีการฟ้องร้องกันอยู่ ส่วนประเด็นการวิ่งเต้นคดีนั้น ตนไม่ทราบถึงรายละเอียด ทั้งนี้นายสมยศ ไม่เคยมีหนี้สินใดๆ และ ทำประกันชีวิตไว้ 2 กรมธรรม์

สำหรับวันเกิดเหตุนั้น หลังที่ตนและนายสมยศ ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ก็ตั้งใจจะไปรับประทานอาหารที่โฮมโปร ย่านศรีนครินทร์ แต่นายสมยศ เป็นคนตัดสินใจจะรับประทานอาหารที่ร้านเฮงหูฉลามเอง และเมื่อรับประทานอาหารเสร็จนายสมยศ ไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่ตนมาสตาร์ทรถ รอนายสมยศ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามตนอยากถามไปยังผู้บงการ และมือปืนที่สังหารว่า นายสมยศ เคยทำอะไรให้ จึงต้องมาทำกันอย่างนี้ และขอให้ตำรวจเร่งจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด

ด้าน น.ส.ณัฐธิดา เปิดเผยว่า เชื่อว่าผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลใกล้ชิด ซึ่งก็ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปแล้วว่าพ่อมีผู้ปองร้าย ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยได้ยินชื่อเฮียม้อ มาก่อน และทราบเพียงว่าเฮียม้อเคยมาขอให้พ่อตนช่วยในเรื่องคดีความให้เท่านั้น แต่ไม่ทราบในรายละเอียด เนื่องจากตนเพิ่งเรียนจบจึงยังไม่ได้เข้าช่วยกิจการด้านกฎหมายของพ่ออย่างจริงจัง ซึ่งในวันนี้พวกตนจะเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)ด้วย ส่วนวันที่ 4กรกฎาคมจะเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ที่สน.คลองตัน

พ.ต.อ.สุทิน เปิดเผยว่า ได้เชิญภรรยา และบุตรสาว ของนายสมยศ เข้าให้ข้อมูล เพื่อสอบถามถึงคำให้การที่ทั้งสองคนให้ไว้กับพนักงานสอบสวนก่อนหน้านี้ โดยยังมีบางประเด็นที่ยังน่าสงสัย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อ นางศุภนิดา นรรัตน์ หรือ ก้อย นายสมชัย นิตยา หรือเล็ก ,พ.อ.ภาณุ จันทร์ศรี หรือ เสธ.ณุ คนสนิทของนายสมยศ และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาให้ข้อมูลต่อไป

ภายหลังการสอบปากคำ นางรัศมี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามในประเด็นทั่วๆไป ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน รวมทั้งข้อมูลของนายสมยศ โดยไม่ได้พุ่งประเด็นใดประเด็นหนึ่ง โดยเป็นข้อมูลที่เคยได้ให้การกับทางพนักงานสอบสวนสน.คลองตันไปก่อนหน้านี้ ทั้งในส่วนของประเด็นที่นางก้อยได้โทรศัพท์มาขอยืมเงิน จำนวน 2 แสน ก่อนที่นางก้อยจะถามต่อว่าจะเดินทางไปที่ไหนบ้านในวันนั้น ซึ่งตนได้ตอบไปว่าไป โรงพยาบาลรามคำแหง ก่อนจะเดินทางไปกินหูฉลาม ซึ่งยืนยันว่าในความเคลื่อนไหวของนายสมยศในวันที่เกิดเหตุมีเพียงนางก้อยที่รู้เพียงคนเดียวเท่านั้น

ในส่วนของกรณีของเฮียม้อ หรือ เสี่ยม้อ นั้น โดยส่วนตัวไม่เคยคุยกัน เนื่องจากคดีความยังไม่สิ้นสุด อย่างไรก็ตามในส่วนของรถเบนซ์ที่สามีของตนขับในวันเกิดเหตุนั้น เป็นรถที่ทางเจ้าของที่ดินย่านพระราม 9 ที่มีเรื่องพิพากกันนำมาจำนำไว้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเดินทางไปให้ปากคำที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลต่อไป และในวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวนสน.คลองตันก็ได้นัดตนและลูกสาวไปสอบปากคำเพิ่มเติม

ขณะที่ น.ส.ณัฐธิดา กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุมีเพียงนางก้อยเท่านั้นที่รู้ความเคลื่อนไหวของพ่อตน เนื่องจากได้โทรศัพท์มาสอบถาม ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าพ่อจะกินหูฉลามที่ร้านดังกล่าวเท่านั้นเพียงร้านเดียว ซึ่งนางก้อยก็เคยได้มาทานที่ร้านนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนและแม่เชื่อว่าการตายของคุณพ่อ น่าจะมีคนใกล้ชิดรู้เห็น และมีส่วนเกี่ยวข้องเนื่องจากคนที่ต้องสงสัยไม่ถูกกับตนและคุณพ่อด้วย