ศธ.เรียกคืน2.5 พันล้านพบสกสค.ปล่อยกู้ทุจริต

ศธ.เตรียมขอ 2,500 ล้านที่ สกสค.ให้เอกชนกู้คืน หลังพบเงินโครเอเชียใช้ค้ำประกันถูกเลิกใช้

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ศธ.จะเดินหน้าเรียกเงินที่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ปล่อยเงินกู้ 2,500 ล้านบาท ให้กับบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป ไปดำเนินการในโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี คืนพร้อมดอกเบี้ย กลับมาเป็นของรัฐ

ทั้งนี้ หลังจากที่หน่วยงานซึ่งประกอบด้วยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงาน ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  ได้ร่วมกันตรวจสอบพบว่าหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว ที่ถูกเก็บไว้ในห้องมั่นคงภายในอาคารราชวัลลภ ฝ่ายบริหารกองคลังของ ศธ. มีมูลค่าต่ำกว่าจริง

พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า หลักทรัพย์ดังกล่าวซึ่งเป็นเงินสกุลคูนาของโครเอเชีย 1,000 ล้านคูนา เป็นเงินที่เลิกใช้แล้ว ขณะที่ดราฟต์ของธนาคารเอชเอสบีซี 100 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นของ ปลอม ส่วนเช็คเงินสด 2,100 ล้าน บาทใบ หุ้นสโมสรฟุตบอลของอังกฤษ โฉนดที่ดิน และหนังสือสัญญาค้ำประกันตัวเอง เป็นเอกสารที่อยู่ในระหว่าง ตรวจสอบว่ามีมูลค่าจริงหรือไม่ ซึ่งคงใช้เวลาไม่นาน

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า หลักทรัพย์ทั้งหมดซึ่งเคยถูกตีราคาตามที่ สกสค. ระบุว่ามีมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ถูกนำมาใช้ค้ำประกันในการร่วมทุนกับกองทุนสนับสนุนพิเศษ กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของดอกเบี้ยในวงเงินกู้ดังกล่าว จะประชุมวางแผนเพื่อดำเนินการต่อไป