posttoday

ผบ.ตร.เผยคนร้ายใช้ยุทธวิธีใหม่ใช้รถนอกพื้นที่ก่อเหตุที่ใต้

27 เมษายน 2558

ผบ.ตร.เผยคนร้ายใช้ยุทธวิธีใหม่ ใช้รถมือสองนอกพื้นที่มาก่อเหตุในภาคใต้ ระบุครบรอบ 11 ปี กรือเซะ ยังไร้ป่วน

ผบ.ตร.เผยคนร้ายใช้ยุทธวิธีใหม่ ใช้รถมือสองนอกพื้นที่มาก่อเหตุในภาคใต้ ระบุครบรอบ 11 ปี กรือเซะ ยังไร้ป่วน

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ว่า ศาลจังหวัดยะลาได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาแล้วหลายคน และชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามตัวโดยยอมรับว่าในการติดตามตัวนั้นเนื่องจากผู้ต้องหามีความเชี่ยวชาญในพื้นที่และอาจหลบหนีไปอยู่ตามแนวชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน การติดตามตัวจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่วนผู้ต้องหาระดับสั่งการยืนยันว่าตำรวจมีข้อมูล แต่พยานหลักฐานยังไม่เพียงต่อการขออนุมัติออกหมายจับ ขณะที่สาเหตุยังคงมองไปที่ประเด็นทางการเมือง

ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่สมุยทำให้ทราบพฤติกรรมของคนร้ายว่ามีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธี โดยจากเดิมที่จัดหารถมือ2ในพื้นที่ ปัจจุปันได้เช่าซื้อมาจากนอกพื้นที่ โดยเฉพาะเต้นท์ในกรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปก่อเหตุ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องให้ความสำคัญและต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในวันพรุ่งนี้ วันที่28 เมษายน เป็นวันครบรอบ 11 ปี เหตุการณ์ความรุนแรงที่มัสยิดกรือเซะ แม้การข่าวยังไม่มีการเตรียมก่อเหตุความไม่สงบ แต่ได้สั่งให้ตำรวจในพื้นที่เฝ้าระวังโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น เน้นย้ำการตรวจสอบยานพาหนะวัตถุต้องสงสัย พร้อมขอความร่วมไปยังประชาชนในพื้นที่ร่วมมือเฝ้าระวังตรวจตรารถและบุคคลต้องสงสัย หากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบทันที

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องสงสัยที่ถูกออกหมายจับตามพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 11 (1) ในความผิดฐานเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุคาร์บอมบ์ทั้ง 5 ราย คือ 1.นายอัสมีน กาเต็มมาดี อายุ 27 ปี 2.นายฮากีม ดอเลาะ อายุ 31 ปี 3.นายมูหาหมัดยากี สาและ อายุ 34 ปี 4.นายอับดุลเลาะ สาแม อายุ 25 ปี และ 5.นายอัมมัร แวดาราแม อายุ 27 ปี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถจับกุมตัวได้แล้วบางคน โดยผู้ที่จับได้เจ้าหน้าที่ทหารจะเป็นผู้รับผิดชอบนำตัวไปสอบสวน

"เนื่องจากตอนนี้หมายจับที่ออกมาเป็นหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้นอำนาจหน้าที่ในการควบคุมตัวจึงขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ หากสามารถเปลี่ยนหมายจับเป็นหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้เมื่อไหร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีอำนาจหน้าที่ในการเข้าไปควบคุมตัวเพื่อทำการสอบสวนได้ต่อไป ขณะที่เหตุผลที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องปกปิดข้อมูลหรือไม่ให้รายละเอียดของข่าวแก่สื่อมวลชนนั้น เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ผู้สงสัยเหล่านี้หลบหนีออกนอกพื้นที่สร้างความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน อีกทั้งบุคคลที่ถูกออกหมายจับเหล่านี้มีความสำคัญในการสืบสวนขยายผลไปสู่ตัวผู้บงการเป็นอย่างยิ่ง" โฆษก ตร. กล่าว