posttoday

มูลนิธิยุติธรรมฯเสียใจเหตุทุ่งยางแดง

13 เมษายน 2558

มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ แถลงการณ์เสียใจ4ศพทุ่งยางแดง ประณามผู้ใช้ความรุนแรงยื่น4ข้อเรียกร้องแก้ปัญหา

มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ แถลงการณ์เสียใจ4ศพทุ่งยางแดง ประณามผู้ใช้ความรุนแรงยื่น4ข้อเรียกร้องแก้ปัญหา

นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้  ว่า  นับจากเหตุการณ์กรณีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงทำการวิสามัญฆาตกรรม 4 ศพที่บ้านโต๊ะชูด อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2558 โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นเยาวชน จนนำมาสู่การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งต่อมา กอ รมน ภาค 4 สน. โดยแม่ทัพภาค 4 ได้ยอมรับความผิดพลาดและขออภัยต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งให้การยืนยันในการนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดเหตุความรุนแรงอย่างต่อเนื่องจนทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอีกหลายเหตุการณ์ นับแต่เหตุระเบิดหลายจุดที่อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 2 เมษายน การฆ่าราษฎรชาวไทยพุทธที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา การสังหารชาวมุสลิมที่อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี การวางระเบิดที่อำเภอตากใบ เมื่อวันที่ 8 เมษายน และอีกหลายเหตุการณ์จนล่าสุดเมื่อวันที่ 12 เมษายน ได้เกิดเหตุยิงราษฎรชาวไทยพุทธเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ทารุณ 4 รายที่ตำบลสุคิริน จังหวัดนราธิวาส และในวันนี้ 13 เมษายน เกิดเหตุยิงสามีภรรยาชาวมุสลิมในสวนยางที่อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ทั้งนี้ในจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บมีหลายรายเป็นผู้หญิง

มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกคน มูลนิธิฯตระหนักว่าการสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์นอกจากจะส่งผลให้เกิดความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจของครอบครัวผู้สูญเสียแล้วยังสร้างความหวาดกลัวอย่างมากต่อสังคม อีกทั้งทำให้เกิดรอยร้าว และเป็นการสร้างความหวาดระแวง ให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนต่างเชื้อชาติ ศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เคยใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอย่างสันติ อีกทั้งจะเป็นอุปสรรคสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างสันติภาพ  มูลนิธิฯขอประณามผู้ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบต่อผู้หญิง และผู้บริสุทธิ์ทุกคน ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยวิธีทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ผิดกฎหมายและหลักคำสอนของทุกศาสนา

“มูลนิธิฯพบว่า นับแต่เดือนมกราคม 2557 จนถึงปัจจุบันมีผู้หญิงถูกสังหารจากสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วทั้งสิ้น 57 คน โดยแทบทั้งหมดเจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย การปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวลเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงความขัดแย้ง และการเปลี่ยนผ่าน

นางอังคณา  กล่าวว่า เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ขัดแย้งทางอาวุธในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลนิธิฯมีข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1. กองกำลังติดอาวุธทุกฝ่ายต้องยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะผู้หญิง เด็ก เยาวชนและผู้สูงอายุ
2. รัฐต้องเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนข้อเท็จจริงของทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความโปร่งใส เท่าเทียม เป็นธรรม และให้ญาติมีส่วนรับทราบข้อเท็จจริง เพื่อสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายไม่ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ทุกฝ่ายไม่ควรด่วนสรุปจนกว่าการสืบสวนสอบสวนจะเสร็จสิ้น
3. รัฐบาล ภาคประชาสังคม รวมถึงผู้นำทุกศาสนาต้องร่วมกันแสวงหาแนวทางเพื่อยุติความรุนแรง และป้องกันการสร้างความเกลียดชัง การยั่วยุ หรือการผลักใสให้ประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นศัตรูต่อกัน ควรมีการหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันบนพื้นฐานของความอดทน อดกลั้น ความจริงใจและการยอมรับในความเห็นที่แตกต่างเพื่อเร่งสร้างมาตรการในการให้ความคุ้มครองชีวิตผู้บริสุทธิ์
4. เร่งให้มีการเยียวยา ฟื้นฟูสภาพจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ รวมถึงสังคมที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง

มูลนิธิฯเชื่อมั่นว่าปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะยุติได้หากทุกฝ่ายเคารพกฎหมาย หลักสิทธิมนุษยชน หลักการศาสนา และเคารพในสิทธิ ศักดิ์ศรี และคุณค่าความเป็นมนุษย์ของบุคคลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน