แฉรีสอร์ท"เกาะไหง"มักง่ายแอบทิ้งขยะเกลื่อนทะเล

ไกด์โพสต์เฟซบุ๊กแฉผู้ประกอบการบนเกาะไหง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังตรัง-กระบี่ แอบนำขยะใส่ถุงดำมาทิ้งกลางทะเล ด้านนายกสมาคมท่องเที่ยวระบุเป็นจริง วอนผู้เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน

วันที่ 3 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยใช้ชื่อว่า Love too far away  โดยมีข้อความว่า ฝากถึงผู้ประกอบการบนเกาะไหงด้วย  คุณคิดดีแล้วหรือที่ทำแบบนี้ ขยะแบบนี้ แล้วคุณให้เรือเอามาทิ้ง ตรงจุดดำน้ำของเกาะไหง ที่ห่างจากรีสอร์ทของคุณนิดเดียว  ผมพายเรือพาแขกฝรั่งมาเที่ยว ฝรั่งถามขยะมาจากไหน มาได้ไงเยอะแบบนี้  ผมอายฝรั่งครับ ได้แต่พายเรือไปเก็บไป  แถวนี้อุดมไปด้วยสัตว์ทะเล และปะการัง อย่าทำลายกันแบบนี้เลย ถ้าคิดจะยังประกอบอาชีพนี้กันอีก

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว  โดยระบุว่า ขยะดังกล่าวมักจะถูกคนงานนำใส่เรือหางยาวมาทิ้งกลางทะเลอันดามัน ในช่วงเย็นๆ ทุกวัน  แต่วันที่ตนถ่ายภาพไว้มีจำนวนเยอะถึง 5 ถุงดำขนาดใหญ่  เนื่องจากช่วงนั้นน้ำบริเวณดังกล่าวไหลนิ่ง จึงทำให้ขยะมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก  แต่ถ้าเป็นช่วงน้ำไหลแรง ขยะเหล่านั้นก็จะถูกพัดพาออกไปสู่ทะเลอันดามัน  ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งชุกชุมของสัตว์ทะเล และเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สำคัญ

"ผมเป็นไกด์ มักพายเรือแคนนูเพื่อนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวบริเวณหน้าเกาะไหง  แต่เมื่อเจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาสอบถามถึงที่มาของขยะจำนวนดังกล่าว  ผมถึงกับอึ้ง รู้สึกอาย และพูดอะไรไม่ออก  จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ และเอาผิดเจ้าของประกอบการรีสอร์ท ที่นำขยะมาแอบทิ้งอย่างเด็ดขาด  เพราะหลังเกาะไหง ก็มีเจ้าหน้าที่อุทยานอยู่ แต่กลับไม่สนใจ  นอกจากวิ่งเรือมาเก็บค่าเข้าอุทยานตามเรือที่พาแขกมาเที่ยว  ขนาดเรือบางลำทอดสมอบนปะการัง เขายังไม่ห้ามเลย ซึ่งมีให้เห็นบ่อยทุกวันนี้"

นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง กล่าวยอมรับว่า  มีผู้ประกอบรีสอร์ทบางรายบนเกาะไหง จากที่มีอยู่ทั้งหมด 10 ราย  ได้ให้แรงงานชาวพม่านำขยะบรรทุกเรือไปทิ้งกลางทะเล  โดยการใส่ถุงดำแล้วใช้เชือกมัดก่อนนำก้อนหินมาถ่วงเอาไว้  แต่บางถุงเกิดเชือกหลุด จึงทำให้ขยะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ  ประกอบกับช่วงนี้ตรงกับช่วงลมมรสุมตะวันตกด้วย  ทำให้กระแสลมพัดพาขยะเหล่านี้เข้าสู่ชายฝั่ง และส่งผลให้นักท่องเที่ยวพบเห็นดังกล่าว  ซึ่งเป็นปัญหาที่ทุกๆ ฝ่ายจะต้องร่วมมือกันเร่งทำการแก้ไข

 ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับเกาะไหงนั้น มีอาณาเขตตั้งอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่  และมีอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เป็นผู้ดูแล  แต่ขณะเดียวกัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้สะดวกจากจังหวัดตรัง  กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงมอบหมายให้อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง เป็นผู้ร่วมดูแลด้วย