posttoday

3ผู้ต้องหาปาระเบิดศาลยอมสารภาพ-โยงเหตุพารากอน

13 มีนาคม 2558

ผบ.ตร.เผย 3 ผู้ต้องหาปาระเบิดศาลอาญายอมรับสารภาพ อยู่ในความควบคุมของทหาร อีก 6 ราย เร่งสอบขยายผล ชี้เชื่อมโยงเหตุพารากอน

ผบ.ตร.เผย 3 ผู้ต้องหาปาระเบิดศาลอาญายอมรับสารภาพ อยู่ในความควบคุมของทหาร อีก 6 ราย เร่งสอบขยายผล ชี้เชื่อมโยงเหตุพารากอน

 

เวลา10.00น.วันที่13มี.ค. ที่ห้องกระจก อาคาร1สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รองผบช.น. หัวหน้าพนักงานสอบสวน และพ.อ.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการส่วนกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน  นำกำลังคุมตัวผู้ต้องหาในคดีขว้างระเบิดใส่บริเวณศาลอาญา เมื่อวันที่ 7 มีนาคม  ประกอบด้วยนายมหาหิน ขุนทอง ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์  นายยุทธนา เย็นภิญโญ ผู้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์และปาระเบิด น.ส.ณัฐฐ์พัชร์ อ่อนมิ่ง  และน.ส.ธัชพรรณ ปกครอง ซึ่งรู้เห็นการปาระเบิด     มาให้พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)สอบปากคำ และให้พนักงานสอบสวนทำการแจ้งข้อกล่าวหา สอบสวนและเก็บลายพิมพ์นิ้วมือ ทามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างค่อนข้างเข้มงวดจากหน่วยอรินราชและตำรวจหญิง หน่วยอารักขาและควบคุมฝูงชน โดยใช้เวลาในกระบวนการสอบสวนเบื้องต้นนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยผบ.ตร.ได้นำยาทาแผลสดมาทำแผลให้นายมหาหิน มีมีแผลจากการถูกกุญแจมือบาดด้วย  ก่อนพล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6(ผบก.น.6) ทีมสืบสวนสอบสวนคดีนี้ นำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุประกอบสำนวนการสอบสวน

พล.ต.อ.สมยศ ให้สัมภาษณ์ ก่อนรับตัวผู้ต้องหาว่า    จะนำข้อมูลจากการสอบสวนของฝ่ายทหาร  ที่สอบสวนในชั้นหนึ่งแล้ว มาเป็นฐานข้อมูลเพื่อตั้งคำถามกับผู้ต้องหาในการสอบสวนของตำรวจ  ทั้งนี้ข้อมูลใดที่ได้จากฝ่ายทหารหากเป็นประโยชน์ก็จะใส่ในสำนวนการสอบสวน   อย่างไรก็ตามสำหรับนางเดียร์ ที่เพิ่งจับกุมได้นั้นยังอยู่ในการควบคุมของฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก  ยังไม่ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน ทั้งนี้ยืนยันว่าตนจะไม่เปิดเผยรายละเอียดการสืบสวนสอบสวนคดีนี้หากกระทบต่อรูปคดี

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายจตุพร  พรหมพันธ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เป็นการจัดฉาก  ผบ.ตร.กล่าวว่า  การตั้งข้อสังเกตใดๆเป็นสิทธิ ที่ผ่านมาหลายคนใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย แสดงความคิดเห็นทางคดี แนวทางการสืบสวน แนะนำตำรวจให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ผิดบ้างถูกบ้าง แต่ทั้งนี้ตำรวจยืนยันว่าจะทำตามพยานหลักฐาน สิ่งที่ปรากฏ ยึดกฎหมาย

“เราจะไม่ทำอะไรที่มันผิดๆหลายๆครั้งเมื่อผลคดีถึงที่สุด ก็จะประจักษ์เองว่าจัดฉากหรือไม่ กรณีนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่ถูกจับกุมตอนแรก นำตัวมาแถลงข่าวให้สื่อซึ่งเป็นคนกลางได้ซักถามผู้ต้องหาเอง การเปิดโอกาสให้สื่อซักถามนั่นเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจของเจ้าหน้าที่แล้ว ให้โอกาสผู้ต้องหาได้พูดกับสื่อต่อสารณชน และการพูดของผู้ต้องหาก็เป็นไปโดยความสมัครใจ ความจริงที่เขาจะพูด เพราะสิ่งเรานี้ปรากฏออกไปใช้เป็นพยานในชั้นศาลได้ เขาคงไม่พูดอะไรที่ทำให้เขาเสียหาย หรือเสียเปรียบในทางคดี ผมเชื่อว่าผู้ต้องหามีวุฒิภาวะพอ รู้ว่าตัวเองควร หรือไม่ควรพูดอะไร  หากสิ่งที่ใดที่ทำให้ตัวเองรับข้อหา ต้องถูกดำเนินคดี ผมเชื่อว่าเป็นความจริง ถ้าพูดแล้วตัวเองกระทบคงไม่พูดหรอก   สำหรับผู้ที่แสดงความคิดเห็นก็ต้องรับฟัง แต่ไม่จำเป็นต้องเชื่อทั้งหมด แต่ก็รับฟัง ” ผบ.ตร.กล่าว

เมื่อถามว่ามีการซัดทอดถึง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.สส. และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผบช.น. นั้นการสืบสวนไปถึงหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าซัดทอด เท่าที่ตนได้ยินได้ฟังไม่ใช่การซัดทอดเพียงแต่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนไปค้นเอกสารในบ้านผู้ต้องหา และพบนามบัตรของท่าน

“อย่างที่เคยบอกว่าท่านจะให้นามบัตร รู้จัก สนิทสนมกับใครเป็นสิทธิของท่าน แต่ที่สำคัญตอนนี้จากการสืบสวนสอบสวนยังไม่มีพยานหลักฐานประจักษ์ว่าท่านเหล่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือ หรืออยู่เบื้องหลังการกระทำผิด เราจะพูดได้ก็ต่อเมื่อมีพยานหลักฐาน นำไปสู่การอนุมัติขอหมายจับเท่านั้น ยังไม่มีพยานหลักฐานชี้ว่าท่านอยู่เบื้องหลังหรือเกี่ยวข้อง เพียงแต่ผู้ต้องหาพูดถึงท่าน หรือเจอนามบัตรของท่าน ซึ่งในทางคดีไม่มีน้ำหนักเพียงพอจะไปดำเนินคดี ดำเนินการอะไรกับท่านเหล่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นหากมีการให้การ ก็ต้องมีการสอบถามใส่ในสำนวนการสอบสวน ต้องถามให้ปรากฏชัดว่ารู้จักกันได้อย่างไร มากน้อยแค่ไหน เกี่ยวข้องหรือไม่ ได้นามบัตรมาอย่างไร หากผู้ต้องหากอกว่ารู้จักท่านเคยไปกินข้าวกับท่าน ได้นามบัตรท่านมาก็เท่านั้นเอง” ผบ.ตร. กล่าว

ต่อมาหลังจากสอบสวนผู้ต้องหา  พล.ต.อ.สมยศ นำคณะแถลงข่าว โดยได้นำภาพแผนผังเครือข่ายผู้ร่วมกระทำผิดคดีปาระเบิดศาลอาญา รัชดา แสดงต่อสื่อมวลชนด้วย โดย ผบ.ตร.แถลงว่า  วันนี้ทหารนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย มาส่งมอบให้กับตำรวจ เพื่อทำการสอบปากคำ พิมพ์ลายนิ้วมือพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ทุกคนทราบ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหา 3 คน คือ นายมหาหิน  นายยุทธนา และ น.ส.ณัฎฐพัชร์ ให้การรับสารภาพ ส่วน น.ส.ธัชพรรณ ปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็น แต่อย่างไรก็ดีจากข้อมูลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า น.ส.ธัชพรรณ เป็นภรรยาของนายยุทธนา และได้เข้าไปอยู่ในห้องประชุมวางแผนการก่อเหตุด้วย ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาเช่นเดียวกันทั้ง 3 คนไว้ก่อน ส่วนการสอบสวนจะออกมาอย่างไรจะให้ความเป็นธรรม

"จากนี้เป็นความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนในการดำเนินกรตามขั้นตอนทางกฎหมายกับผู้ต้องหาทั้ง 4 คนนี้ ขณะที่ยังมีผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการควบคุมตัวของเจาหน้าที่ทหารอีก 6 คน โดยจะส่งมอบตัวให้กับพนักงานสอบสวนในวันที่ 15 มี.ค.นี้ เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามกำหนดเวลาควบคุมตัวผู้ต้องหา 7 วันตามกฎอัยการศึก และจะได้นำเข้าสู่กระบวนการสอบสวนเช่นเดียวกัน โดยเบื้องต้นคาดว่าในวันอาทิตย์นี้จะได้ตัวมาประมาณ 3 คน เพราะระยะเวลาในการจับกุมผู้ต้องหาแต่ละรายไม่เท่ากัน" ผบ.ตร. กล่าวและว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนที่เหลือ และจะได้นำมามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อสืบสวนขยายผลต่อไป หากผู้ต้องหาซัดทอดไปถึงบุคคลใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป โดยจะยึดหลักความถูกต้อง พยานหลักฐานเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไม่มีการกลั่นแกล้งให้ร้ายป้ายสีอย่างแน่นอน

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า จากพยานหลักฐานและการให้การซัดทอดของผู้ต้องหาที่ถูกจับกลุ่มแรก สามารถนำไปสู่การขออนุมัติออกหมายจับได้เพิ่มอีก 6 คน คือ นายณเรศ อินทรโสภา อายุ 32 ปี เจ้าของสำนักงานหมูปิ้งนมสด จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมวางแผนก่อเหตุ  นายสรรเสริญ  หรือสัน ศรีอุ่นเรือน อายุ 63 ปี ผู้ร่วมประชุมวางแผนและวิทยากร นายวิชัย อยู่สุข หรือตั้ม มีนบุรี  อายุ 49 ปี ผู้ร่วมประชุมวางแผน นายชาญวิทย์ จริยานุกูล อายุ 61 ปี ผู้ร่วมประชุมวางแผนและวิทยากร นายวิระศักดิ์ โตวังจร อายุ 42 ปี  หรือบิ๊ก หรือใหญ่ พัทยา ผู้ร่วมประชุมวางแผนและผู้จัดหาระเบิด และนางเดียร์ ผู้ว่าจ้างให้ปาระเบิด

เมื่อถามว่า จากข้อมูลการสืบสวนของตำรวจนั้น นางเดียร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับความวุ่นวายทางการเมืองตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมาหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า  ในทางการสืบสวนนั้นใช่  และต้องรอรายละเอียดการสอบสวนเพิ่มเติมก่อน แต่จากการสืบสวนพบว่าใช่โดยเฉพาะเหตุที่ใช้ระเบิดชนิดอาร์จีดีไฟว์  แต่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนที่รับตัววันนี้ไม่พบประวัติเกี่ยวข้อง หรือเคยก่อเหตุแต่อย่างใด  ส่วนจะมีบุคคลที่สั่งการนางเดียร์อีกทอดหนึ่งหรือไม่นั้น ต้องรอการสอบสวนนางเดียร์ หลังจากที่ทหารส่งมอบตัวมาให้ก่อน จึงจะสามารถระบุได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับใครเพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยขณะนี้ยังไม่อยากระบุว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลใดอย่างไร ต้องรอการสอบสวนจากผู้ต้องหาให้ละเอียดชัดเจนเสียก่อน 

ผู้สื่อข่าวถามถามว่า ผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าสยาม และหน้าห้างสยามพารากอน หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า สรุปว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากมีความคิดหรือแนวอุดมการณ์หรือมีทัศนคติไปในแนวทางเดียวกัน และรู้จักกัน แต่การลงมือกระทำความผิดอาจจะแยกกันกระทำความผิด เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนอย่างละเอียดก่อน   

เมื่อถามถึงกรณีผู้ต้องหาซัดทอดถึงบุคคลอื่น ผบ.ตร. ระบุว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการสืบสวนของพนักงานสอบสวนที่จะต้องหาข้อมูลทั้งการสอบสวนและการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมายืนยันคำให้การของผู้ต้องหาเพื่อให้ละเอียดครบถ้วน เจ้าหน้าที่ไม่ได้เชื่อว่าคำให้การของผู้ต้องหานั้นเป็นความจริงทั้งหมด


เมื่อถามว่าเหตุใดผู้ต้องหาถึงต้องก่อเหตุที่ศาลอาญาฯ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นสถานที่เชิงสัญลักษณ์ หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งที่ผ่านมากระทั่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังตามสถานที่เสี่ยงต่างๆอย่างเข้มข้น เช่น ปปช. ดีเอสไอ และศาล เป็นต้น  

ผู้สื่อข่าวถามว่าขนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้หรือไม่ว่าผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเสื้อแดง หรือ นปช.  ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่อยากพูดแบบนั้นเนื่องจากอาจจะเกิดความขัดแย้งในสังคมได้ เพียงแต่คนร้ายกลุ่มนี้อาจจะเกิดการหลงผิดแล้วก่อเหตุรุนแรง เพื่อต้องการให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้ามาควบคุมสถานการณ์ในประเทศไทย  ซึ่งคนกลุ่มนี้อาจได้รับข้อมูลมาแบบผิดๆจึงลงมือก่อเหตุลงไป แต่ขณะนี้ทางรัฐบาลและ คสช. พยายามที่จะแก้ปัญหาเกี่ยวกับกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งเพื่อลดความแตกแยกในสังคม ดังนั้นขณะนี้หากกลุ่มคนที่มีความคิดขัดแย้งแตกต่างและเตรียมสร้างความรุนแรงวุ่นวาย ก็ขอให้รอรัฐบาลได้ทำงานก่อนเพื่อให้เกิดประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เมื่อถึงเวลานั้นเชื่อว่าความแตกแยกจะหมดไป  และยืนยันตำรวจทำตามหน้าที่ กลไกบ้านเมืองไม่ใช่คู่ขัดแย้งใคร   

ด้าน พล.ต.ต.ชยพล กล่าวบรรยายแผนผังเครือข่ายผู้ก่อเหตุ ที่มีเชื่อเรียกว่า กลุมองค์กรภาคีภาคประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและประชาชน ว่า   สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนร่วมกันว่า สถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ได้มีการวางแผน จุดเริ่มตั้งแต่ห้างสยามพารากอน พอเกิดเหตุที่พารากอนเจ้าหน้าที่ทหารมีการสั่งการโดย คสช. สั่งการมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันวางแผนป้องกันเหตุทุกจุด ไม่ใช่เฉพาะที่ศาลอาญาแต่ทำทุกจุดทั่วกรุงเทพฯ ปัจจุบันนี้ก็ยังทำต่อ จากจุดศาลอาญา ถ.รัชดา การข่าวค่อนข้างแน่ชัดว่าจะมีการก่อเหตุ ก็มีการวางกำลังกันทั้งทหารตำรวจแบ่งหน้าที่กันทำ

“ ในวันที่เกิดเหตุเมื่อคืนวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์และได้มีการวางแผนกัน 2 คนร้ายเอาระเบิดมาขว้างและก็หนี ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทหารซุ่มอยู่ก็เข้าไปทำการจับกุม ได้เกิดการปะทะกันเล็กน้อย คนร้าย 2 คนที่จับมาก็คือนายมหาหิน กับนายยุทธนา หลบหนีเข้าไปในพื้นที่ข้างเคียง และเจ้าหน้าที่ทหารก็ตามเข้าไปจับกุมตัวได้  จากการสอบสวนขยายผลแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับตำรวจช่วยกันซักถามคนร้าย 2 คน ก็ให้การซัดทอดพาดพิงถึงกลุ่มบุคคลที่มาก่อเหตุร่วมกันวางแผน โดยมีเครือข่ายที่มีการจ้างวาน มีการโอนเงินเข้ามา และสุดท้ายเอาระเบิดอาร์จีดี5 มามอบให้กับฝ่ายผู้ต้องหาเพื่อก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเราก็มีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับกลุ่มแรก 5 คน ประกอบด้วยนายมหาหิน ขุนทอง นายยุทธนา เย็นภิญโญ น.ส.ณัฏฐ์พัชร์ อ่อนมิ่ง น.ส.ธัชพรรณ ปกครอง และนายวีระศักดิ์ โตวังจร” พล.ต.ต.ชยพล กล่าว

พล.ต.ต.ชยพล กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนสอบสวนและขยายผลอีก ก็มีการออกหมายจับกลุ่มที่ 2 อีก 4 คนโดยหมายจับศาลทหารกรุงเทพ คือนายณเรศ อินทรโสภา นายสรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน นายวิชัย อยู่สุข และนายชาญวิทย์ จริยานุกูล ขณะนี้ถูกควบคุมตัวของฝ่ายทหารยังไม่ได้ส่งมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบสวน เช่นเดียวกับนางเดียร์ ที่เป็นผู้จ้างวานปาระเบิด ซึ่งยังอยู่ในการควบคุมของทหาร  ทั้งนี้กลุ่มนี้ก็มีการขยายผลต่อไปอีก ตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานงานระหว่าง ตำรวจกับฝ่ายทหาร มีการรวบรวมพยานหลักฐาน    และเร็วๆนี้จะมีการออกหมายจับ นายบาสและนายวิทย์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมประชุมวางแผนเพิ่มเติม ทั้งนี้อาจมีคนอื่นอีก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นคนที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างนางเดียร์กับกลุ่มนายนเรศ

 

3ผู้ต้องหาปาระเบิดศาลยอมสารภาพ-โยงเหตุพารากอน แผนผังเครือข่ายผู้ก่อเหตุ