"อังคณา"ร้องดีเอสไอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนคดีทนายสมชาย

"อังคณา นีละไพจิตร" บุกดีเอสไอถามความคืบหน้าคดี "ทนายสมชาย" พร้อมขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนใหม่

วันที่ 11 มี.ค.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางอังคณา  ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ เข้าพบนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อยื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าคดีการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม หลังจากที่ดีเอสไอไม่มีการประชุมคดีตั้งแต่มีการรับเป็นคดีพิเศษมานานกว่า 10 ปี และขอให้เปลี่ยนตัว พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยศักดิ์ ผบ.สำนักคดีพิเศษ 1 โดยขอให้เปลี่ยนตัวคณะพนักงานสอบสวนใหม่ เนื่องจากพ.ต.อ.นิรันด์ไม่มีความเต็มใจในการคลี่คลายคดีและไม่มีความน่าเชื่อถือ จึงขอให้อธีบดีดีเอสไอแต่งตั้งพนักงานสอบสวนชุดใหม่ โดยให้พนักงานคดีพิเศษที่เคยทำคดีนี้ตั้งแต่ต้น รวมทั้งผู้มีประสบการณ์ด้านต่างๆ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้โทรศัพท์ เร่งรัดให้สืบสวนคดีอย่างโปร่งใส

นางอังคณา กล่าวต่อว่า คดีของนายสมชาย หากเจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาก็สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีพยานหลักฐานอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เคยรายงานต่อคณะกรรมการต่อต้านการทรมานแห่งสหประชาติ ในการประชุมที่ประเทศสวิตเซอแลนด์ เมื่อพ.ค. ปี 2557โดยระบุว่า ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนคดีนายสมชายอย่างต่อเนื่อง แต่ในฐานะเหยื่อและครอบครัวผู้สูญเสียขอชี้แจงว่าไม่เคยได้รับคพตอบจากดีเอสไอถึงความคืบหน้าดังกล่าวมานานกว่า 10 ปีแล้ว

นางอังคณา กล่วอีกว่า ในสมัยที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตนพยายามขอเข้าพบ แต่ได้รับการปฎิเสธมาโดยตลอด กระทั่งนายธาริตพ้นตำแหน่ง ก็ไม่เคยได้เข้าพบเพื่อขอสอบถามติดตามความคืบหน้าของคดีได้เลย

"ขอบอกตรงๆว่าไม่ไว้ใจการทำงานของ พ.ต.อ.นิรันดร์ โดยอ้างว่าเมื่อการชุมนุมมีผู้ชุมนุมบุกเข้าไปในอาคารดีเอสไอแล้วทำแฟ้มคดีหายไปจำนวน 6 แฟ้ม ต่อมาบอกว่าพบแฟ้มคดีหมดแล้ว" นางอังคณา ระบุ

นางอังคณา กล่าวอีกว่า ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ จะครบรอบ 11 ปี ของการหายตัวไปของนายสมชาย ในฐานะเหยื่อตั้งแต่สามีหายตัวไป ยังไม่เคยเดินทางไปยังจุดที่สามีถูกผลักขึ้นรถและหายตัวไปที่ปากซอยรามคำแหง 69 เพราะที่ผ่านมายังไม่มีความเข้มแข็งพอ แต่เมื่อเวลาผ่านมาแล้ว ก็อยากไปยืนแจกโบชัวร์ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยไม่มีได้มีเจตนาประจานการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

นางอังคณา กล่าต่อว่า ปัจจุบันตนยังอยู่ในโครงการคุ้มครองพยานของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และขอขอบคุณทุกรัฐบาลที่ดูแลและให้การช่วยเหลือเยียวยา โดยรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่การเยียวยาไม่ได้หมายความจ่ายเงินใหัแล้วจบ เพราะคดีนายสมชายไม่ใช่ประเด็นส่วนตัวหรือประเด็นครอยครัว แต่เป็นเรื่องของสังคม ต่อไปการทำคดีจะต้องมีแนวทางให้ชัดเจน หากดีเอสไอทำคดีนี้สำเร็จก็จะเป็นคุณูประการต่อสังคมในอนาคตโดยเชื่อนายสมชายถูกบังคับให้สูญหายของเจ้าหน้าที่จริงๆ

นางอังคณา กล่าวภายหลังการเข้าอธิบดีดีเอสไอว่า ทางดีเอสไอและอดีตพนักงานสอบสวนที่เคยทำคดีชี้แจงว่า แฟ้มสำนวนคดีนายสมชายไม่ได้สูญหายหรือถูกทำลาย ส่วนการขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนทั้งหมดนั้น ทางดีเอสไอจะรับไว้พิจารณาและพร้อมเรียกประชุมชุดพนักงานสิบสวนในคดีดังกล่าว โดยขอนัดหารือกับอัยการคดีพิเศษ อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนชี้แจงถึงสาดหตุที่คดีของนายสมชายไม่คืบหน้า เพราะว่าศพถูกทำลาย จึงทำให้ทำงานยาก อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงเข้ามาเกี่ยวพันธ์ จึงเป็นสาเหตุให้คดีไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร