posttoday

เตรียมขยายใช้เครื่องคุมประพฤติทั่วประเทศ

26 มกราคม 2558

ยธ.โชว์ประสิทธิภาพเครื่องมือคุมประพฤติ เผยใช้ไปแล้วกับผู้กระทำผิด 57 ราย เตรียมขยายใช้งานทั่วประเทศ

ยธ.โชว์ประสิทธิภาพเครื่องมือคุมประพฤติ เผยใช้ไปแล้วกับผู้กระทำผิด 57 ราย เตรียมขยายใช้งานทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 26  ม.ค. เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ควบคุมการติดตามด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์  ศูนย์ราชการ  นายวัลลภ  นาคบัว  รองผอ.สำนักกิจการยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม  พร้อมด้วยนายประสาร  มหาลี้ตระกูล  รองกรมคุมประพฤติ  แถลงผลการดำเนินการนำเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic  Monitoring)  หรือกำไลข้อเท้า มาใช้แทนการคุมขังว่า  ขณะนี้เป็นช่วงสัญญาเช่ารอบ 2  โดยก่อนหน้านี้มีการเช่าใช้กำไลข้อเท้าไปแล้ว 200 ชุด ในปีนี้เป็นการเช่าใหม่จำนวน 3,000 ชุด  เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2557 ในพื้นที่ 23 จังหวัด

ล่าสุดมีการใช้กำไลข้อเท้ากับผู้กระทำผิดตามคำพิพากษาของศาลแล้ว 57 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้กระทำผิดตามพ.ร.บ.จราจร 31 ราย คดีบุกรุก 4 ราย  คดียาเสพติด3 ราย คดีขับรถประมาท 3 ราย คดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์  ราย ความผิดต่อชีวิตและร่างกาย  ความผิดพ.ร.บ.สารระเหย  พ.ร.บ.อาวุธปืน  คดีละ 1 ราย และตามพ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด 10 ราย  ทั้งนี้  ยังไม่พบว่ามีผู้เจตนาฝ่าฝืนการใช้กำไลข้อเท้า โดยกรมคุมประพฤติมีแนวโน้มจะขยายการใช้งานให้ครอบคลุมทั่วประเทศ หลังพบว่าระยะหลังศาลมีความเชื่อมั่นและมีคำสั่งใช้กำไลข้อเท้ามากขึ้น

นายวัลลภ กล่าวต่อว่า การใช้กำไลข้อเท้าเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยในการควบคุมผู้กระทำผิดให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเช่น กรณีเมาแล้วขับศาลจะกำหนดเขตพื้นที่ห้ามเข้า  ห้ามออก  หรือจำกัดเส้นทางเพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดซ้ำ ไม่ใช่เครื่องมือที่สามารถปรับพฤติกรรมได้    ทั้งนี้นอกจากกำไลข้อเท้าที่เป็นทางเลือกหนึ่งในการควบคุมแล้ว  งานบริการสังคมถือว่ามีความจำเป็น โดยมีแนวคิดปรับงานบริการสังคมที่อาจดึงความถนัดหรือความเชี่ยวชาญของผู้กระทำผิดมาใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น

เตรียมขยายใช้เครื่องคุมประพฤติทั่วประเทศ