กระเป๋ารถเมล์ปฏิเสธผลักเด็กตกรถ203

พนักงานกระเป๋ารถเมล์สาย 203 เข้าให้ปากคำ ยืนยันไม่ได้ผลักเด็กลงจากรถ อ้างมีพยานเห็น ด้าน ขสมก. สั่งพักงาน 7 วัน ตั้งกก.สอบ

วันที่ 20 ม.ค.   เมื่อเวลา 09.00 น. นายบำรุง พัดพรหม คนขับรถ และ นางธนัญญา แซ่อึ๊ง พนักงานเก็บค่าโดยสาร รถเมล์สาย203 ท่าน้ำนนท์-สนามหลวง หมายเลขข้างรถ 35 ได้เดินทางมาที่ ขสมก. พร้อมเจ้าของรถ เพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดินรถเอกชนร่วมบริการ กรณีที่มีคลิปพนักงานเก็บค่าโดยสารผลักเด็กลงจากรถ เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าโดยสารเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย  โดยมีน.ส.บังอร แตงหอม เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 5 ฝ่ายเดินรถเอกชนร่วมบริการ ขสมก. เป็นผู้สอบสวนข้อเท็จจริง

โดยนางธนัญญา พนักงานเก็บค่าโดยสาร กล่าวว่า  คลิปที่ปรากฏขึ้นบนโลกออนไลน์ ไม่เป็นความจริง ตนเองถูกกล่าวหาอยู่ฝ่ายเดียว เป็นที่ทราบกันว่าเด็กคนนี้ เป็นเด็กพิเศษมีอาการทางสมอง จะขึ้นรถสายนี้เป็นประจำ  ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเก็บค่าโดยสาร  และเมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น. เขาก็ขึ้นรถมาปกติที่ป้ายเดิมตรงหน้าโรงเรียน เวลานั้นมีผู้โดยสารเกือบเต็มรถส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา ตนเอง จึงพูดแหย่ว่าวันนี้จ่ายค่าโดยสารด้วยนะ

จากนั้นเขาก็โวยวาย ก่อนขว้างกระเป๋าเศษเงินกระจายเต็มพื้นรถ รวมทั้งทำท่าจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย ตนจึงใช้กระบอกเก็บเงินขึ้นมาข่มขู่ ประกอบกับ เป็นจังหวะที่รถจอดป้ายพอดี คนขับจึงเปิดประตูให้ผู้โดยสารลง คาดว่าเด็กน่าจะพลาดตกลงไปเอง ยืนยันมีพยานหลักฐาน และผู้เห็นเหตุการณ์ภายในรถชัดเจน

ขณะที่ นางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. กล่าวว่า เบื้องต้นทาง ขสมก. จะจัดตั้งกรรมการสอบสวนหาพยาน และคำให้การ โดยจะเร่งดำเนินการภายใน 7 วัน ซึ่งในระหว่างนี้ ได้สั่งให้มีการพักการเดินรถคันดังกล่าวเเล้ว พร้อมทั้งพักการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสาร จนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการสอบสวน ซึ่งภายหลังจากนี้ หากพบว่ากระทำความผิดจริง จะดำเนินการไล่ออกจากหน้าที่ทันที
 
นางปราณี กล่าวว่า ถึงแม้จะยังไม่มีผู้ร้องเรียนเข้ามา แต่ทาง ขสมก. เห็นคลิปดังกล่าว ทำให้ไม่สบายใจ จึงได้เรียกพนักงานมาเพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง ส่วนมาตรการที่ผ่านมา ทาง ขสมก. ก็เข้มงวดด้านของรถร่วมฯรวมทั้งรถของ ขสมก.ทุกคัน ที่กระทำผิดจะได้รับโทษเช่นเดียวกันไม่มีข้อยกเว้น