posttoday

วายร้ายข้ามชาติหนาวตม.ตั้งศูนย์ไล่ล่า

14 มิถุนายน 2553

ศูนย์หมายจับคนร้ายข้ามชาติถือเป็นการนับหนึ่งของการประกาศตัวที่จะกวาดล้างอาชญากรต่างถิ่นและมุ่งสู่การเป็นฮับของภูมิภาคอาเซียนในการคว้าตัวอาชญากรโลก

ศูนย์หมายจับคนร้ายข้ามชาติถือเป็นการนับหนึ่งของการประกาศตัวที่จะกวาดล้างอาชญากรต่างถิ่นและมุ่งสู่การเป็นฮับของภูมิภาคอาเซียนในการคว้าตัวอาชญากรโลก

โดย...วัลยศ งามขำ

แก๊งวายร้ายที่ลงมือก่อเหตุในเมืองไทยขณะนี้สร้างความหวาดหวั่นไปทั่ว พวกมันกำลังท้าทายอำนาจของมวลหมู่คนสีกากีอย่างเต็มรูปแบบ

โดยเฉพาะคดีคนร้ายชาวโคลัมเบียฉกเงิน 12 ล้านบาท จากลานจอดรถธนาคารกรุงไทย ก่อนหลบหนีไปแบบซุกกลีบเมฆ แม้ว่าตำรวจจะตั้งหลักทันด้วยการออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างความระคายเคืองให้กับวายร้ายเหล่านี้แม้แต่น้อย

วายร้ายข้ามชาติหนาวตม.ตั้งศูนย์ไล่ล่า

หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นไปตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทำได้เพียงกวาดจับแก๊งคนร้ายชาวโคลัมเบีย ที่เชื่อว่าเกี่ยวเนื่องกันไว้ได้ 10 คน ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

แต่หัวโจกที่ถูกออกหมายจับ อันโตนิโอ ราอูล โกเมซ (Antonio Raul Gomez) ถือหนังสือเดินทางประเทศสเปน และ โอมาร จีโอวานี โรดรีเกรซอาโพเต้ (Omar Giovvany Rodriguez Apote)สัญชาติโคลัมเบีย ยังล่องหน

ถึงเวลาต้องยอมรับกันแล้วว่าเมืองไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่หอมหวนของวายร้ายนานาชาติ เลือกเข้ามาหากิน และก่อคดีหลายครั้งหลายหนในแต่ละปีจนตำรวจไทยมึนหัวตึ้บ !!!

คงเป็นด้วยเหตุผลนี้ที่ทำให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่เสมือนเป็นประตูด่านแรกที่คนร้ายสัมผัสก่อนเข้าประเทศ ถึงกับนิ่งเฉยไม่ได้ การประกาศเปิดตัว ศูนย์หมายจับคนร้ายข้ามชาติ หรือ Transnational Crime Arrest Warrant Information Center จึงถือเป็นการนับหนึ่งของการประกาศตัวที่จะกวาดล้างอาชญากรต่างถิ่นต่างภาษา และมุ่งสู่การเป็น Hub ของภูมิภาคอาเซียนในการคว้าตัวอาชญากรโลก

“เรากำลังทำให้เมืองไทยเป็นตลาดหมายจับคนร้ายทั่วโลก เป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการค้นหาข้อมูลของอาชญากรที่โลกต้องการตัว” พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคน

เข้าเมือง พูดถึงจุดประสงค์การก่อตั้งศูนย์หมายจับที่ตั้งขึ้นมา

ศูนย์นี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสายตาของตัวแทนเจ้าหน้าที่ทูตของสถานทูตต่างๆ ที่มาเข้าร่วมสังเกตการณ์

เขาบอกว่า ศูนย์นี้ถือว่าเป็นการนำหมายจับของอาชญากรทั่วโลกมาบริหารจัดการข้อมูลใหม่ เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าออกประเทศไทย เหตุที่ต้องทำเช่นนี้เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวสูงมาก โดยในแต่ละปีเมืองไทยมีคนต่างชาติเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวมากถึง 14 ล้านคน

พล.ต.ท.วุฒิ บอกว่า ให้ความสำคัญกับ Free Flow of Human หรือการเคลื่อนย้ายคนโดยเสรีในโลกปัจจุบัน ที่มีการเดินทางของคนจำนวนมาก และด้วยจำนวนคนที่เดินทางเข้ามาในไทยมากมายขนาดนี้ จึงเปิดโอกาสให้คนร้ายต่างชาติแฝงเข้ามาในบ้านเราในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะอ้างเป็นนักท่องเที่ยว หรือในรูปของนักธุรกิจบังหน้า รวมทั้งการทำกิจกรรมหรือธุรกรรมต่างๆ จึงจำเป็นต้องพัฒนาในการดักจับคนร้ายเหล่านี้ไม่ให้เข้ามาก่อปัญหาหรือหลบซ่อนตัวในประเทศไทย

จากการตรวจสอบข้อมูลการกระทำความผิดของอาชญากรข้ามชาตินั้นจะพบว่า มีการกระทำความผิดอยู่ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรก เป็นการกระทำความผิดในต่างประเทศแล้วหลบหนีเข้ามาในไทย

กลุ่มที่สอง เข้ามาก่อคดีหรือกระทำความผิดในประเทศไทย และ กลุ่มสุดท้าย คนร้ายจะอาศัยไทยเป็นสถานที่ฟอกเงิน โดยนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมาลงทุน หรือแปลงเป็นสินทรัพย์ ซึ่งในสองกลุ่มหลังนี้พบว่าเริ่มมีมากขึ้น

วายร้ายข้ามชาติหนาวตม.ตั้งศูนย์ไล่ล่า

“เป้าหมายหนึ่งของการตั้งศูนย์คือเพื่อจัดการกับคนร้ายที่เข้ามาก่อคดีเกี่ยวกับความมั่นคง และสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในระดับนานาชาติให้ไทยมีความพร้อมในเวทีประชาคมอาเซียนในปี 2558 นั่นคือการเป็น Hub เกี่ยวกับการจับกุมคนร้ายระดับนานาชาติ” ผบช.ตม.พูดถึงศักยภาพของศูนย์หมายจับในอนาคต

สำหรับหมายจับล็อตแรกที่ ตม. บรรจุเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ เชื่อมโยงกันหมดทุกด่าน ตม. ถาวรทั่วประเทศ ประกอบด้วย หมายจับที่ออกโดยศาลไทย จำนวน 1,333 หมายจับ ของตำรวจสากล หรือ Interpol จำนวน 253 หมายจับ หมายจับที่สถานทูตต่างๆ ร้องขอ 263 หมายจับ หมายจับของหน่วยสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา หรือ FBI 10 หมายจับ และหมายจับของหน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา หรือ DEA 8 หมายจับ รวมทั้งสิ้น 1,867 หมายจับ

ในจำนวนหมายจับทั้งหมดแบ่งออกเป็นผู้ต้องหาชาวเอเชีย 1,012 คน ยุโรป 377 คน อเมริกาเหนือ 91 คน อเมริกาใต้ 50 คน ออสเตรเลีย 31 คน แอฟริกา 94 คน และไม่ระบุสัญชาติ 212 คน คดีส่วนใหญ่ลำดับแรกเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การฆาตกรรม และการปลอมแปลงเอกสาร ส่วนคดีก่อการร้ายที่ล่าอยู่มี 5 คน

ก่อนหน้านี้ ตม. ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนร้ายเหล่านี้เข้ามาในบ้านเราเมื่อไหร่ เพราะระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ตามสนามบินหรือด่าน ตม. จะบรรจุเฉพาะหมายจับที่ออกโดยศาลไทย หรือตามที่แต่ละประเทศร้องขอเท่านั้น แต่ทุกวันนี้เมื่อใส่หมายจับเข้าไป เชื่อว่าจะเป็นช่องทางหนึ่งทำให้สกัดคนร้ายข้ามชาติได้มากขึ้น ขณะที่การเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติก็ยังสามารถใช้เวลาเท่าเดิม ไม่ได้เสียเวลาตรวจสอบอะไรเพิ่มเติม

“เรามีหน้าที่ป้องกันและจับกุม ถ้าคุณเป็นคนร้ายคุณอย่าเข้ามาในประเทศผม ถ้าคุณเข้ามาได้จะด้วยวิธีการใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นการปลอมหนังสือเดินทาง หรือลักลอบเข้ามา คุณก็จะต้องเจอการไล่ล่าตามจับของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน คุณจะอยู่ในบ้านเรายากขึ้น” พล.ต.ท.วุฒิ ขู่

ขณะที่ พ.ต.ท.พงษ์นคร นครสันติภาพ รองผู้กำกับการอำนวยการ ศูนย์สืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของศูนย์หมายจับคนร้ายข้ามชาติ บอกว่า เจ้าหน้าที่จะพัฒนาข้อมูลหมายจับอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันต่อการจับกุมคนร้ายข้ามชาติ โดยจะติดต่อสื่อสารกับ 4 แหล่งหลัก ประกอบด้วย ศาลไทย สถานทูต FBI และ DEA ซึ่งเป็นที่มาของหมายจับที่ใส่เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยตำรวจสามารถตรวจค้นหมายจับของบุคคลเหล่านี้ได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูเทคโนโลยีล่าสุดที่ ตม.นำมาใช้ จะใช้เป็นเครื่องทุ่นแรงตามลากคอวายร้ายข้ามชาติที่จ้องใช้ไทยเป็นฐานทำมาหากินได้หรือไม่แต่ก็เอาใจช่วย !!!