posttoday

ยกฟ้องดีเจหนุ่มคดีพรากผู้เยาว์ชี้หลักฐานไม่ชัด

24 ธันวาคม 2557

ศาลยกฟ้องดีเจหนุ่ม ไม่ผิดพรากผู้เยาว์–ค้าประเวณีเด็กสาว เหตุพยานหลักฐานยังไม่ชัด

ศาลยกฟ้องดีเจหนุ่ม ไม่ผิดพรากผู้เยาว์–ค้าประเวณีเด็กสาว เหตุพยานหลักฐานยังไม่ชัด 

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. เวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณา 803 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1790/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายธนกฤต โพธิ์ศรี อายุ 36 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่ออนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ฯ , ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำใดหรือไม่กระทำ หรือจำนนยอมต่อสิ่งใด ฯ ,หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพ และพรากและพาผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีไปจากบิดามารดาเพื่ออนาจาร ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 , 309 , 310 และ 319

ฟ้องโจทก์สรุปว่าระหว่างเดือนมีนาคม 52 – มกราคม 54 จำเลยได้พราก น.ส.เอ (นามสมมุติ) ขณะนั้นอายุ 15 ปีเศษ ผู้เสียหายที่ 2 ไปจากมารดาของ น.ส.เอ ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ 1 โดยจำเลยร่วมประเวณีกับผู้เยาว์หลายครั้งและเป็นธุระจัดหาให้ผู้เสียหายที่ 2 ค้าประเวณี เหตุเกิดที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี และ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี    

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว คดีมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดฐานพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 18 ปีหรือไม่ จากการนำสืบเห็นว่าผู้ปกครองของผู้เสียหายที่ 2 รับทราบมาตลอดว่าจำเลยกับผู้เสียหายที่ 2 คบกันในลักษณะฉันท์สามีภรรยาและมีการทะเลาะเบาะแว้งกัน ขณะที่ผู้ปกครองของผู้เสียหาย ยังได้ย้ายที่อยู่ไปอาศัยบริเวณใกล้เคียงกันกับจำเลยเพื่อดูแล ซึ่งความผิดการพรากผู้เยาว์นั้น ตามกฎหมายจะต้องเป็นการพรากไปจากผู้ปกครอง แต่ข้อเท็จจริงที่นำสืบมายังรับฟังไม่ได้จำเลยพรากผู้เสียหายที่ 2 ไปเพื่อการนั้น แต่เป็นการอยู่กันฉันท์สามีภรรยาที่ผู้ปกครองก็รับทราบมาตั้งแต่ต้นเป็นระยะเวลากว่า 2 ปีแล้ว

ส่วนจำเลย มีความผิดฐานค้าประเวณีหรือไม่นั้น พฤติการณ์ยังไม่ปรากฏว่า มีหลักฐานเพียงพอแสดงให้เห็นจำเลยบังคับให้ผู้เสียหายร่วมหลับนอนกับชายอื่น ขณะที่มีการแจ้งความในภายหลังจากที่มีการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดแล้วระยะนานเป็นปี ประกอบกับจากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของจำเลย ก็ไม่พบวีดีโอที่ผู้เสียหายที่ 2 มีเพศสัมพันธ์กับชายอื่นตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง  พยานหลักฐานโจทก์ยังมีเหตุแห่งความสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย จึงพิพากษายกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายธนกฤต นั้น ในชั้นตำรวจให้การว่า รับงานเป็นดีเจตามผับต่างๆ ขณะที่ผู้เสียหายที่2 ในคดีนี้  ต่อมาได้เข้าประกวดและรับตำแหน่งจากการประกวด MISS MAXIM THAILAND ด้วย