posttoday

อดีตตชด.อ้างสนิทลูกนายกฯหลอกเหยื่อฝากเข้าตำรวจ

19 ธันวาคม 2557

อดีตตำรวจตชด.อ้างสนิทลูกสาวนายกฯมอบตัวกองปราบ หลอกเหยื่อ 40 ราย ฝากเข้าตำรวจ สารภาพ สำนึกผิด

อดีตตำรวจตชด.อ้างสนิทลูกสาวนายกฯมอบตัวกองปราบ หลอกเหยื่อ 40 ราย ฝากเข้าตำรวจ สารภาพ สำนึกผิด

วันที่ 19 ธ.ค. จ.ส.ต.วรวิทย์ ขำจิต อายุ 36 ปี อดีต ผบ.หมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ยะลา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกง เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้กำกับการ 6 กองปราบปราม (ผกก.6 บก.ป.) หลังจาก จ.ส.ต.วรวิทย์ มีพฤติการณ์แอบอ้างตัวว่ามียศ พ.ต.ท.สังกัด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และมีความสนิทสนมกับบุตรสาวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สามารถช่วยเหลือบุคคลให้เข้ารับราชการตำรวจ สังกัด บช.ปส.ได้โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก แต่ต้องเสียเงินเป็นค่าดำเนินการรายละ 250,000 บาท จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อหลายราย


คดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายณัฐวุฒิ แสงทอง อายุ 23 ปี ชาว จ.ยะลา พร้อมพวกรวม 40 คน ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ว่าถูก จ.ส.ต.วรวิทย์ และ นายสหชาติ คงทน อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นครูอัตราจ้างแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา หลอกลวงว่าสามารถฝากเข้ารับราชการเป็นตำรวจชั้นประทวนได้ โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก แต่ต้องเสียเงินค่าดำเนินการตามจำนวนดังกล่าว จึงหลงเชื่อจ่ายเงินให้ แต่กลับไม่ได้เข้ารับราชการตำรวจตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด

จ.ส.ต.วรวิทย์ ให้การว่า เปิดกิจการร้านอาหารและร้านน้ำชา อยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ต่อมาช่วง 3-4 เดือนก่อน ประสบปัญหาด้านการเงิน จึงคิดวิธีการหาเงินด้วยการแอบอ้างว่าเป็นหลานของ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถฝากคนให้เข้ารับราชการตำรวจได้ โดยเรียกเงินรายละ 250,000 บาท ซึ่งจะทำสัญญากู้ยืมเงินกับผู้เสียหายทุกราย ก่อนจะชักชวนนายสหภาพ ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนมาร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายด้วยเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือเพราะนายสหภาพ เป็นอาจารย์ซึ่งเป็นที่รู้จักในพื้นที่ เมื่อได้เงินมาก็จะนำมาแบ่งกัน ภายหลังเริ่มมีผู้เสียหายมาสอบถามความคืบหน้ากรณีการฝากเข้าเป็นตำรวจ ทำให้ตนต้องหลบหนีออกนอกพื้นที่ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ กระทั่งเมื่อ 3 เดือนก่อน จึงขาดราชการ ส่วนผู้เสียหายที่หลอกลวงมานั้นมีทั้งหมด 40 ราย ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมมูลค่าเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

จ.ส.ต.วรวิทย์ ให้การอีกว่า ที่ตัดสินใจเข้ามอบตัวในครั้งนี้ เนื่องจากรู้สึกสำนึกผิด เพราะเป็นต้นเหตุทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน และยืนยันว่าไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกับลูกสาว รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี ตนจะพยายามหาเงินมาชดใช้ผู้เสียหายทั้งหมดให้เร็วที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.ธีรเดช กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ก่อนจะพิจารณาให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ เนื่องจาก จ.ส.ต.วรวิทย์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง จึงเชื่อว่าไม่มีพฤติกรรมที่จะหลบหนี ทั้งนี้ เพื่อให้โอกาสในการหาเงินมาใช้คืนให้กับผู้เสียหายด้วย หลังจากนี้ก็จะเชิญผู้เสียหายที่เหลือมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป