posttoday

อัยการผลสอบเพิ่มสำนวนคดีเกาะเต่าก่อนส่งฟ้อง

29 ตุลาคม 2557

อัยการรอตำรวจสอบเพิ่มคดีเกาะเต่า ด้าน ผู้ว่าฯบี้จับนายจ้างซุกต่างด้าว ขณะที่ชาวบ้านเกาะพะงันหนุนเลิกปาร์ตี้มั่วทำเสื่อมเสีย

อัยการรอตำรวจสอบเพิ่มคดีเกาะเต่า ด้าน ผู้ว่าฯบี้จับนายจ้างซุกต่างด้าว ขณะที่ชาวบ้านเกาะพะงันหนุนเลิกปาร์ตี้มั่วทำเสื่อมเสีย

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. นายธวัชชัย  เสียงแจ้ว อธิบดีอัยการภาค 8 ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพนักงานอัยการในคดี เปิดเผยว่า คณะทำงานอัยการได้พิจารณาสำนวนคดีฆาตกรรม2นักท่องเที่ยวที่เกาะเต่าแล้ว และมีความเห็นตรงกันว่าสำนวนมีความพร้อมกว่าร้อยละ 95 ถือว่าสำนวนมีความครบถ้วนถูกต้องดี แต่ภายหลังเมื่อพ่อแม่และญาติของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ยื่นขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมกรณีถูกตำรวจชุดจับกุมทำร้ายร่างกายให้รับสารภาพ ขณะถูกควบคุมตัว ซึ่งเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงได้มีคำสั่งไปยังพนักงานสอบสวนให้สอบสวนปากคำเพิ่มเติมในส่วนนี้โดยให้มีการสอบสวนทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงคาดว่าเมื่อพนักงานสอบสวนส่งสำนวนประเด็นการสอบสวนเพิ่มเติมกลับมายังพนักงานอัยการก็จะส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเกาะสมุยได้ทันที

นายธวัชชัย  กล่าวว่า  ในประเด็นการสอบสวนเพิ่มเติมที่ให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม รวมถึงสำนวนการสอบสวนเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถนำออกเผยแพร่สู่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องได้จนกว่าสำนวนคดีจะได้รับการประทับรับฟ้องจากศาล เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อต่อสู้กันทางคดี ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการพิจารณาสำนวนของพนักงานอัยการ

"สังคมอาจจะมองว่าคดีมีความล่าช้าจนเลยเถิดไปคิดว่า สำนวนไม่สมบูรณ์ หรือผู้ต้องหาเป็นแพะ ซึ่งยอมรับว่าตรงนี้จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนถึงกระบวนการพิจารณาสำนวนให้มากกว่านี้"นายธวัชชัย  กล่าว

นายธวัชชัย กล่าวและว่า ส่วนประเด็นที่กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งสิทธิการเป็นโจทก์ร่วมไปยังญาติผู้เสียหายที่ประเทศอังกฤษทั้ง 2 รายตามกฎหมายประเทศไทย ซึ่งผู้เสียหายสามารถเข้าเป็นโจทก์ร่วมฟ้องกับพนักงานอัยการได้นั้นแต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อจากญาติอย่างใด คาดว่าคงไม่มีปัญหาหากพนักงานสอบสวนส่งสำนวนการสอบ สวนเพิ่มเติมก็สามารถส่งฟ้องได้

ด้านนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าว่า ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จไปออกหน่วยขึ้นทะเบียนที่ ต.เกาะเต่า และ อ.เกาะพะงัน ระหว่างวันที่ 13-27 ต.ค.ปรากฏว่ามีผู้ประกอบการนำแรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนรวม 2 เกาะประมาณ 8,000 คนเท่านั้น ขณะได้ประเมินจากการสืบสวนพบว่า ในพื้นที่เกาะเต่ามีแรงงงานผิดกฎหมายกว่า 6,000 คน แต่มาขึ้นทะเบียนเพียง 4,000 คน ส่วนที่เกาะพะงัน คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 10,000 คน มาขึ้นทะเบียน 4,000 คนเช่นกัน ซึ่งข้อมูลในทางลับพบว่าปัญหาเกิดจากผู้ประกอบ การไม่ยอมนำแรงงานผิดกฏหมายมาขึ้นทะเบียน 

"หลังจากวันที่ 31 ต.ค.นี้ จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปสืบสวนจับกุมผู้ประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวในครอบครองและดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดทันที ในข้อหาให้ที่พักพิงต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย เพราะนอกจากจะไม่สามารถควบคุมแรงงานต่างด้าวได้แล้ว ยังเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตในหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอีกด้วย"นายฉัตรป้อง กล่าว

นายฉัตรป้อง กล่าวอีกว่า ส่วนการออกระเบียบห้ามไม่ให้แรงงานต่างด้าวออกจากที่พักหลังเวลา 22.00 น.จะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนวันจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่หาดริ้น ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ แต่ขณะนี้ได้ออกข้อกำหนดห้ามคนต่างด้าวเป็นผู้จำหน่ายสุราบริเวณหาดริ้นในวันจัดกิจกรรมฟูนมูลปาร์ตี้ไปก่อน

วันเดียวกันที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.เกาะพะงัน นายทวีศักดิ์ อินทร์พรหม นอภ.เกาะพะงัน ได้ประชุม ผกก.สภ.เกาะพะงัน , สาธารณสุขอำเภอ , กำนัน , ผู้ใหญ่บ้านและผู้ประกอบการท่องเที่ยว ประมาณ 40 คน หลังจากจังหวัดมีคำสั่งห้ามจัดงานปาร์ตี้ทุกชนิดที่ชายหาดและในที่สาธารณะ ยกเว้นงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่หาดริ้น โดยที่ผ่านมาพบมีการจัดงานปาร์ตี้ประเภทสถานที่เปิดโล่ง จำนวน 10 แห่ง รวม 22 วันต่อเดือน เกิดผลกระทบเสียงดังต่อชุมชน เป็นแหล่งมั่วสุ่มระบาดยาเสพติด เปิดเกินเวลาเป็นต้นเหตุเกิดอุบัติเหตุส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว โดยการสำรวจจากประชาชนร้อยละ 70 ไม่เห็นด้วยจะให้มีการจัดต่อไป

นายสุวิทย์  ผ่องศรี ประธานสภาวัฒนธรรม อ.เกาะพะงัน กล่าวว่า อยากให้เลิกจัดงานปาร์ตี้อื่นที่ไม่ใช่ฟูลมูนปาร์ตี้เสีย เพราะบางแห่งอยู่ใกล้วัดเปิดเพลงเสียงดังจนถึงรุ่งเช้า ขนาดพระออกเดินบิณฑบาตยังมีฝรั่งเมาสุราเดินแก้ผ้าอยู่บนถนนซึ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสม

นายมานพ แซ่เตี่ยว ตัวแทนสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพะงัน กล่าวว่า การจัดงานปาร์ตี้อื่นมักชอบอ้างเป็นการส่งเสริมท่องเที่ยวซึ่งไม่ถูกต้อง ทางอำเภอและฝ่ายปกครองไม่ควรอนุญาตต่อไปแล้วควรถือระเบียบตามคำสั่งจังหวัด ซึ่งทางสมาคมคงไม่ออกหนังสือรับรองให้งานเหล่านี้ส่งไปขออนุญาตที่จังหวัด เพราะเห็นว่ามีฟูลมูนปาร์ตี้งานเดียวก็เพียงพอแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.อ.เกาะพะงัน กล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบการหยุดจัดปาร์ตี้ปฎิบัติตามคำสั่งจังหวัดเพราะตำรวจจำเป็นจะต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก และห้ามขายสุรากับผู้ที่มึนเมาควบคุมอารมณ์ไม่ได้ โดยเฉพาะในงานฟูลมูนปาร์ตี้ครั้งต่อไป(6พ.ย.57) จะต้องไม่มีแรงงานต่างด้าวออกมาขายสุราเด็ดขาด