รัฐเร่งช่วยสาวจุดไฟเผาตัวเอง

ปนัดดา เยี่ยม สาวใหญ่เผาตัวเอง ที่ รพ.วชิระ ยันให้ทางจังหวัดเร่งช่วยประนอมหนี้  ด้านผบ.ทบ. ระบุ รัฐเร่งช่วยเหลือประชาชน ขณะที่ พม.เร่งเยียวยาจิตใจ

วันที่ 15 ต.ค. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าเยี่ยมอาการนางสังเวียน รักษาเพ็ชร์ อายุ 52 ปี ชาวลพบุรี จุดไฟเผาตัวเอง ด้านหน้าศูนย์บริการประชาชน (ชั่วคราว) ฝั่งสำนักงาน ก.พ. ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล  ที่ รพ.วชิระ

จากนั้น ม.ล.ปนัดดา หน่วยงานรัฐจะประสานการดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาล ส่วนเรื่องสัญญาการประนอมหนี้ ที่นางสังเวียนมาร้องเรียนกับศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เบื้องต้น ได้สอบถามกับทางจังหวัด ทราบว่า นางสังเวียนมาติดต่อขอให้ช่วยเหลือ เรื่องการประนอมหนี้หลายครั้ง แต่อาจยังไม่พอใจในการช่วยเหลือ จึงมาร้องเรียนที่ส่วนกลางและเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ส่วนการเยียวยาหนี้ จะให้ทางจังหวัดดูแลช่วยเหลือ เพราะทุกจังหวัดดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และหลังจากนี้ จะต้องมีมาตราการดูแลความปลอดภัยในจุดบริการประชาชนเพื่อระวังเหตุไม่คาดคิดต่างๆที่อาจเกิดขึ้น

ด้าน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. ว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว มีความรู้สึกเป็นห่วง และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหวังว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะปลอดภัย ส่วนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ขณะนี้มีศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องร้องเรียนตามต่างจังหวัดอยู่ เพราะประชาชนมีความเดือดร้อนจำนวนมาก ทั้งนี้ต้องใช้เวลาดำเนินการแก้ไข แต่ที่ผ่านมารับทราบจากผู้ว่าราชการบางจังหวัดว่าการแก้ไขให้เป็นรูปธรรม โดยความร่วมมือของกระทรวงมหาดไทยและส่วนราชการที่ผ่านมา ได้ผลแล้วเกินกว่าครึ่ง แต่ติดขัดบ้างจากข้อกฎหมาย จึงต้องใช้เวลา ขอให้ทุกคนเข้าใจ เพราะส่วนราชการตระหนักถึงปัญหาของทุกคน และจะพยายามสร้างความเข้าใจ 

ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าว ว่า ตนได้มอบหมายให้นางเสาวนีย์ โขมพัตร รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ(พส.) พร้อมศูนย์ช่วยเหลือสังคมและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปตรวจสอบและเยียวยาผู้บาดเจ็บแล้ว พร้อมทั้งมอบเงินสงเคราะห์ฉุกเฉินในเบื้องต้น และประสานทางครอบครัวผู้บาดเจ็บให้ทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ดูแลสภาพจิตใจของผู้บาดเจ็บและครอบครัวต่อไป

พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ วรรณภักตร์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้เดินทางมาเยี่ยมนางสังเวียน พร้อมเปิดเผยว่า จะเรียกพยานในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเพื่อลำดับเหตุการณ์ต่างๆ แต่ไม่น่ามีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะไม่ใช่เจตนาสร้างความเสียหายให้สถานที่ราชการ แต่เป็นการตั้งใจทำร้ายตนเอง และหากมีการดำเนินคดี น่าจะมีเพียงการพกพาอาวุธเข้าไปในสถานที่ราชการซึ่งมีโทษปรับเพียงเล็กนัอย ส่วนการดูแลความปลอดภัย หลังจากนี้จะประสานให้ตำรวจเข้าไปช่วยคัดกรองผู้มาร้องเรียนต่างๆเพื่อไม่ให้พกพาอาวุธเข้าไปในสถานที่ราชการ