posttoday

คสช.จ่อล้มโครงการแจกแท็บเล็ต

27 พฤษภาคม 2557

ก.ศึกษาธิการรับนโยบายคสช.เล็งเปลี่ยนรูปแบบโครงการแจกแท็บเล็ตเป็นห้องเรียนอัจฉริยะแทน

ก.ศึกษาธิการรับนโยบายคสช.เล็งเปลี่ยนรูปแบบโครงการแจกแท็บเล็ตเป็นห้องเรียนอัจฉริยะแทน   

เมื่อวันที่ 27พ.ค.57 นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยหลังการได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับ พล.ร.อ ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการแจกแท็บเล็ตในปีการศึกษา 2557 ว่าค่อนข้างเห็นด้วยกับแนวความคิด ห้องเรียนในรูปแบบห้องเรียนอัจฉริยะหรือสมาร์ท คลาสรูม(Smart classroom) แทน การแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนชั้น ป .1 และม.1 ทุกคนเหมือนเดิม

อย่างไรก็ดี ศธ.ต้องรวบรวมข้อมูลรายละเอียด ก่อนนำเสนอว่า ทั้งสองรูปแบบมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่า แจกทุกคนดีอย่างไร และทำเป็นสมาร์ท คลาสรูมดีอย่างไร แบบใดก่อให้เกิดผลประโยชน์และความคุ้มค่ากับเด็กสูงสุดและที่สำคัญเพื่อให้บริหารจัดการงบประมาณที่จำกัดให้มีประสิทธิภาพที่สุด

ส่วนของการเดินหน้าโครงการแท็บเล็ตนักเรียน ศธ.ได้รายงานภาพรรวมของการดำเนินงานว่า ในปี 2556 ได้มีการจัดสรรแท็บเล็ตให้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ไปแล้ว ในโซน 1 โซน 2 และ โซน3 แต่โซน 4 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ที่เพิ่งมีการประกาศขายซองและคาดว่าจะเริ่มการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์(อี-ออกชั่น) ช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการจัดซื้อเพราะเป็นโครงการต่อเนื่องรวมถึงการจัดซื้อแท็บเล็ตในปีการศึกษา 2557 โดยที่ประชุมขอไปศึกษารายละเอียดก่อนว่าการจัดซื้อที่ผ่านมาใช้งบประมาณไปแล้วเท่าไหร่และจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะอยากให้โครงการแท็บเล็ตเกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนมากที่สุดโดย ศธ.ต้องนำทั้งสองรูปแบบมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าแจกทุกคนดีอย่างไร และทำเป็นสมาร์ท คลาสรูมดี อย่างไรแบบใดก่อให้เกิดผลประโยชน์และความคุ้มค่ากับเด็กสูงสุด และที่สำคัญเพื่อให้บริหารจัดการงบประมาณที่จำกัด
       
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สำหรับการจัดหาแท็บเล็ตในปีการศึกษา 2557 พล.ร.อ.ณรงค์ สั่งการให้สำนักงานกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ทำเรื่องเสนอขอความเห็นชอบจากคสช.ก่อน โดย คสช.จะพิจารณาถึงความจำเป็นและประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากคสช.ให้ความเห็นชอบ สพฐ.จึงจะดำเนินการต่อได้

ทั้งนี้ การดำเนินการจัดหาแท็บเล็ตของปีการศึกษา 2556 ขณะนี้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วในโซน 1 ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 (ภาคกลางและภาคใต้) โซน 2 ป.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และโซนที่ 3 ระดับม.1 (ภาคกลางและภาคใต้) ยกเว้นโซนที่ 4 ม.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ซึ่ง สพฐ.ยกเลิกสัญญากับ บริษัท จัสมิน และอยู่ระหว่างดำเนินการประกวดราคาใหม่
       
อย่างไรก็ตาม ทางผบ.ทร.กำชับว่า ยังไม่ให้สพฐ.ดำเนินการเซ็นสัญญาใดๆ และให้ส่งเรื่องมาขอความเห็นชอบก่อน โดยให้ส่งรายละเอียด เหตุผลความจำเป็นมาเสนอ เพราะโครงการนี้ใช้งบฯ จำนวนมาก แต่เวลานี้ประเทศจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณเพื่อพัฒนาด้านอื่นๆ มากกว่า จึงต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
 
“ในส่วนของแท็บเล็ตปี 2557 นั้นยังไม่ได้เริ่มโครงการใดๆ จึงยังไม่มีปัญหา แต่สำหรับปีการศึกษา2556 ได้ดำเนินการไปแล้วแต่ยังค้างในโซนที่ 4 ซึ่งผมจะเสนอเรื่องและให้เหตุผลว่า มีความจำเป็นต้องจัดสรรให้ครบ เนื่องจากที่ผ่านมานักเรียนใน 3 ภูมิภาคได้รับหมดแล้ว เหลือเพียงอีก 1 ภูมิภาคที่ยังไม่ได้ ซึ่งอาจเกิดความไม่เท่าเทียม และเราอาจจะไม่สามารถตอบคำถามเด็กและผู้ปกครองได้ ทั้งนี้ สพฐ.จะนัดประชุมสรุปรายละเอียดและเสนอเรื่องไปยังสคช.โดยเร็ว”นายอภิชาติกล่าว