posttoday

วิเชษฐ์เข้มขบวนการลอบตัดไม้สัก

03 พฤษภาคม 2557

"วิเชษฐ์”เปิดยุทธการสาละวินเข้มขบวนลอบตัดไม้สักสั่งเพิ่มการข่าวตั้งด่านตรวจปิดทางเหลือบผลาญป่า

"วิเชษฐ์”เปิดยุทธการสาละวินเข้มขบวนลอบตัดไม้สักสั่งเพิ่มการข่าวตั้งด่านตรวจปิดทางเหลือบผลาญป่า

วันที่ 3 พ.ค. นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อธิบดีกรมป่าไม้ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ลงพื้นที่บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจเยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมให้โอวาทในการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 และองค์การเครือข่ายป่าไม้ จำนวน 700 นาย ที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกัน ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าสาละวิน” ตลอดจนตรวจดูการใช้รถยนต์และการใช้เรือยนต์ชักลากไม้ของกลางจากลำน้ำสาละวินขึ้นสู่บก และเปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายป่าในพื้นที่ป่าสาละวิน

นายวิเชษฐ์ กล่าวว่ากรณีการลักลอบทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าสาละวิน” ท้องที่ ตำบลแม่สามแลบ และตำบลสบเมย อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสถานการณ์รุนแรงขึ้นตามลำดับนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2556 เป็นต้นมา โดยเฉพาะบริเวณที่ตรวจพบการลักลอบตัดโค่นต้นไม้สักจำนวนมาก ในลำห้วยมะกอก อยู่ห่างจากหมู่บ้านแม่สามแลบ ไปทางทิศใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร  ซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน สลับซับซ้อน ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวตลอดแนวเป็นพื้นที่ชายแดนที่ต้องคำนึงถึงความมั่นคงระหว่างประเทศ และต้องใช้ความละเอียดอ่อนในปฏิบัติงาน และต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด

นายวิเชษฐ์ กล่าวว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวิน ที่ยังมีทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ และมีจำนวนไม้สักเป็นจำนวนมาก จึงได้กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามที่เข้มข้น โดยแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายป่าในพื้นที่ป่าสาละวิน โดยมีผู้ว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นประธาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานเป็นกรรมการ สั่งให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายป่า ในพื้นที่ป่าสาละวิน โดยบูรณาการ 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

นายวิเชษฐ์ กล่าวด้วยว่าส่วนในพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศ จะมีการดูแลอย่างใกล้ชิด และให้การสนับสนุนงบประมาณและอัตรากำลัง และสั่งให้เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวน โดยเฉพาะในบริเวณแนวชายแดน พร้อมทั้งเพิ่มงานด้านการข่าวให้มากยิ่งขึ้น เพื่อสืบสวนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกคนอย่างเด็ดขาด ให้มีการตั้งด่านตรวจและจุดสกัดเส้นทางเข้าออก เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ และสกัดกั้นการลักลอบขนออกนอกประเทศ รวมทั้งการตรวจสอบการครอบครองไม้ที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดทั้งในพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมายและผู้ประกอบการธุรกิจทำไม้ ซึ่งเชื่อว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยปกป้องพื้นป่าไว้ได้อย่างแน่นอน