"ปวีณา"พาตำรวจทลายสำนักอาจารย์การเวก

"ปวีณา"พาตำรวจกองปราบทลายสำนักอาจารย์การเวกหลอกสาวทำเสน่ห์สูญเงินหลายล้านบาท

นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีนำ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการกองปราบปรามนำโดย พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รักษาการผู้บังคับการกองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.กองปราบปราม บุกเข้าตรวจค้นภายในหมู่บ้านพรธิสาร 6 บ้านเลขที่ 61/89 หมู่ 8 ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เป็นบ้านปูนสองชั้น จำนวน 2 หลัง เข้าจับกุมนายธนวรรณ อัศวพลสุวรรณ หรือ อาจารย์การเวก กับพวก รวม 5 คน หมายจับเลขที่ 428-432/2557 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน  ศาลอาญา ลงวันที่ 12 มี.ค.2557 หลังจากมีผู้เสียหายจำนวน 7 รายเข้าร้องทุกข์เมื่อวันที่ 23ก.ค.2556 จากการตรวจค้นยึดของกลางเป็นอุปกรณ์ในการทำเสน่ห์, หุ่นตุ๊กตาดินปั้นชายหญิงพันด้วยสายสิญจน์จำนวนมาก และอาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุนปืน เมื่อตรวจสอบภายในบ้านมีช่องทางเข้าที่สลับซับซ้อนมีการปิดกำแพงกั้นบ้านอีกหลังไว้ ซึ่งมีการตั้งเครื่องบูชาขึ้นหิ้ง ขึ้นชั้นวางเป็นสำนักฯ ส่วนที่ชั้นบนเป็นห้องนอน มีเตียงสำหรับประกอบทำพิธีร่วมหลับนอนตามขั้นตอนของพิธีการทำเสน่ห์
 
ทั้งนี้นายธนวรรณ หรือ อาจารย์การเวก เทพหน้าทอง มอญแปลงรูป ซึ่งอ้างว่าเป็นศาสตร์หนึ่งที่มีการเลี้ยงผีผูกมนต์เทวดา พลังมนต์ดำเหล่านี้จะคุ้มครองลูกหลานจนลูกหลานมั่งมี สามารถทำเสน่ห์ให้คนรักคนหลง ต้องใช้เครื่องเซ่นไหว้เป็นทรัพย์สินเงิน และทองคำด้วย อาจารย์การเวกจะสั่งให้ทำอะไรบ้าง ผู้ชายบางคนที่เข้าไปหาเพื่อหวังทำเสน่ห์ กลับถูกบังคับให้ร่วมประเวณีผู้หญิงที่ไปทำพิธีเหมือนกันและอาจารย์การเวกก็ จะนั่งดู ในการทำพิธีแต่ละครั้งก็จะต้องเสียเงินหลักหมื่นถึงหลักแสน และทองคำ นอกจากนี้มีหญิงสาวอีกหลายรายถูกบังคับให้กินยาบ้าและข่มขืน หลังจากนั้นอาจารย์การเวกจะข่มขู่ว่าห้ามไปบอกหรือเล่าให้ใครฟัง มิฉะนั้นจะถูกคุณไสยจนถึงแก่ชีวิตซึ่งทำให้ทุกคนไม่กล้าพูด
 
น.ส.บี (นามสมมุติ) กล่าวว่า เธอมีปัญหาด้านสุขภาพและรู้สึกว่าระยะหลังสามีทำตัวห่างเหิน ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อเข้าไปในอินเตอร์เน็ตก็พบเว็ปไซต์ของสำนักอาจารย์การเวก เทพหน้าทอง มอญแปลงรูป ตั้งสำนักอยู่ที่ หมู่บ้านพรธิสาร 6 ต.บึงบอน โฆษณาว่าแก้อาการเจ็บป่วยจากคุณไสยและทำเสน่ห์ให้คนรักและหลงได้ จึงหลงเชื่อเดินทางไป เมื่อไปถึงจะเห็นคนจำนวนมากมาที่สำนักเพื่อทำพิธี พอถึงคิวของเธอก็เข้าไปในห้องพิธีที่สลัวพบกับอาจารย์การเวกที่นั่งคอยอยู่ บรรยากาศภายในห้องมีรูปกุมารทอง ตุ๊กตาดินปั้น กลิ่นธูปคลุ้งไปทั้งห้อง อาจารย์การเวกก็จะพูดและถามต่างๆนานา บางเรื่องเมื่อรู้มาก่อนยิ่งทำให้เธอหลงเชื่อมากขึ้น และสั่งให้เธอไปซื้อทองเพื่อใส่ไปในหุ่นที่จะทำพิธี หลอกให้ทำหุ่น ต้องซื้อทองคำใส่หุ่น อ้างว่าหุ่นจะทำให้มีพลัง หลังจากนั้นเมื่อกลับมาอีกครั้งเมื่อทำพิธีเสร็จ ก็บอกให้เธอถวายเงินด้วย พร้อมบังคับให้ร่วมประเวณีอ้างว่าจะทำให้ของขลังมากขึ้น ต่อมาก็ส่งรูปโป๊ เปลือย ขณะร่วมประเวณีมาให้ดูและข่มขู่ว่าจะเผยแพร่หากไม่นำเงินมาให้ จึงต้องยอมจ่ายเงินให้หลายครั้ง  หลังจากทำพิธีกลับมาแล้วเวลาผ่านไปเป็นเดือนอาการป่วยของเธอก็ยังไม่มีท่าทีดีขึ้นทั้งที่ทำการรักษาโดยตลอด และยังต้องเลิกรากับสามีอีกด้วย
 
น.ส.บี (นามสมมติ) กล่าวอีกว่า เธอกับผู้เสียหายอีก 6 คนซึ่งถูกหลอกและกระทำในลักษณะเดียวกัน เสียเงินทองจำนวนมาก ถูกข่มขืนไม่รู้ว่าจะพึ่งใครจึงเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา ขอให้ช่วยเหลือประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแก๊งคนร้ายที่ตั้งสำนักหลอกหลวง ประชาชนเพราะไม่อยากเห็นใครที่หลงเชื่อ งมงาย ตกเป็นเหยื่ออีก นอกจากนี้ทราบว่ามีผู้ที่ถูกหลอกแบบพวกเธออีกจำนวนมากแต่ไม่กล้าที่จะทำอะไร เพราะกลัวว่าจะได้รับอันตรายและอับอาย

อย่างไรก็ตามภายหลังรับแจ้งนางปวีณา ได้ประสานไปยังผู้บังคับการกองปราบปราม และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯเดินทางพาผู้เสียหายทั้ง 7 ราย เข้าพบพ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.กองปราบปราม และแจ้งความต่อพ.ต.ท.วิพากษ์ มีจันทร์ พงส.ผนพ.กก.2บก.ป. หลังจากสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดพร้อมส่งตรวจร่างกายแล้ว จากนั้นได้ใช้เวลาให้ฝ่ายสืบสวนออกหาข่าว และรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับ นายธนวรรณ อัศวพลสุวรรณ อายุ 43 ปี หรือ อาจารย์การเวก กับพวก รวม 5 คน หมายจับเลขที่ 428-432/2557 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน  ศาลอาญา ลงวันที่ 12 มี.ค.2557
 
ด้านนายธนวรรณ  หรืออาจารย์การเวก ให้การว่า เขาร่ำเรียนตามวิชาคาถาที่อาจารย์ได้สั่งสอนไว้ในการทำพิธีทางไสยศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหญิงสาว และนักศึกษาที่ต้องการทำเสน่ห์มหานิยม ทำเสน่ห์สำหรับครอบครัวที่สามีมีเมียน้อย การทำพิธีแต่ละครั้งมีค่าบริการขั้นต่ำประมาณ 20,000 บาท – 5 แสน บาท แต่ละครั้งที่มีการทำพิธีจะมีขั้นตอนตามพิธีกรรมซึ่งจะต้องให้เข้าถึงสามี ของผู้ที่เดือดร้อน จะถามความจำยอม หากยินยอมที่จะให้ทำพิธีก็จะร่วมหลับนอนด้วยกัน แต่ถ้าบางคนไม่ยินยอมก็จะใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยเหลือตนเองในการทำพิธีเพื่อให้เข้าถึงและเพื่อให้พิธีกรรมประสบความสำเร็จ
 
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายธนวรรณฯ พร้อมของกลางมาสอบสวนเพื่อขยายผล โดยจะนำตัวส่งพ.ต.ท.วิพากษ์ มีจันทร์ พงส.ผนพ.กก.2บก.ป.นำตัวดำเนินคดีตามข้อหาฉ้อโกงประชาชนต่อไป