ศาลยุติธรรมดำเนินคดีมือยิงเอ็ม79

ศาลยุติธรรม ดำเนินคดีคนลงมือและผู้จ้างวานยิงระเบิดเอ็ม79 ใส่ศาลอาญาและศาลแพ่ง

นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม แถลงว่า ได้ส่งหนังสือเวียนถึงศาลทั่วประเทศเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้น หลังจากเกิดเหตุคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม79 ตกที่ศาลอาญาและลานจอดรถศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 14 และ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา รวมทั้งมีกลุ่มบุคคลวางพวงหรีดจุดธูป และชูป้ายข้อความประท้วงต่างๆ

ทั้งนี้ ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลอาญาและศาลแพ่งที่เกิดเหตุ โดยมีการตรวจตราอาวุธและยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกอย่างละเอียด รวมทั้งตรวจค้นตัวบุคคลอย่างเข้มงวด ซึ่งอาจจะทำให้กระทบต่อประชาชนที่มาติดต่อราชการบ้าง พร้อมกันนี้ยังได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อคุ้มครองผู้พิพากษาด้วย

นายภัทรศักดิ์ กล่าวว่า ในวันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.เข้าหารือกับศาลเพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุและป้องปรามไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยได้รับรายงานจากจากตำรวจว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งหากพบผู้เกี่ยวข้องกระทำผิด จะเร่งติดตามจับกุมดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว ทั้งผู้ลงมือและผู้จ้างวาน

เช่นเดียวกับ กรณีที่มีผู้โพสต์ข้อความและรูปภาพไม่เหมาะสมในลักษณะดูหมิ่นศาล และข่มขู่คุกคามการทำงานของศาลและผู้พิพากษา ก็ต้องเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้ประชาชนกลับคืนมา ส่วนที่มีกลุ่มบุคคลประพฤติตนไม่เหมาะสมในบริเวณศาลแพ่ง ก็เป็นอำนาจของศาลแพ่งที่จะดำเนินคดีในข้อหาละเมิดอำนาจศาลได้

เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวยืนยันว่า การพิจารณาพิพากษาคดี ดำเนินการโดยปราศจากอคติ มีความเป็นธรรม กระบวนการโปร่งใส ไม่เข้าข้างใคร พิจารณาไปตามพยานหลักฐาน และมีการประชุมเป็นองค์คณะ หากคู่ความไม่พอใจก็เปิดโอกาสให้ต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถยื่นอุทธรณ์และฎีกาได้

"เหตุการณ์ที่เกิดนั้นไม่ทราบว่าเป็นเรื่องใด เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ใครเป็นผู้กระทำและต้องการหวังผลอะไร แต่เหตุที่เกิดได้แสดงถึงการคุกคามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่ก่อตั้งศาลมากว่า 130 ปี ซึ่งภายหลังจากศาลแพ่งมีคำพิพากษาไม่กี่วัน ก็มีคนร้ายยิงอาวุธสงครามใส่ศาลถึง 2 ครั้ง ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ถือเป็นการคุกคามการพิจารณาคดีของศาล อย่างที่ยอมรับไม่ได้" เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าว

ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ยื่นหนังสือขอคำชี้แจงจาก นายสุทธินันท์ เสียมสกุล อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เรื่องการควบคุมสถานการณ์หลังศาลมีคำพิพากษาไม่ให้ใช้ประกาศและข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ลักษณะดังกล่าวก็ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งขึ้นอยู่กับอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนที่มีกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำหน้าที่ของศาล ขอยืนยันอีกครั้งว่า ในการพิจารณาพิพากษาคดีจะต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริงเฉพาะในสำนวนเท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องฟังกระแสสังคมหรือพยานหลักฐานภายนอกสำนวน

ด้านนายธงชัย เสนามนตรี อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่า การพิพากษาพิจารณาคดีของศาลเป็นไปตามพยานหลักฐาน เหตุการณ์ยิงระเบิดที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการพิพากษาคดี และการใช้ชีวิตของตนและผู้พิพากษา เพราะมั่นใจว่าทำตามหน้าที่ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

"ความวุ่นวายขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นมานานแล้วได้สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ และเกิดความสูญเสียมีคนตายทุกวันซึ่งไม่คุ้มค่าและไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้ใดเลยถ้าสามารถประนีประนอมกันได้ก็ควรทำ" อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าว