กต.มอบกรมแผนที่ดูเขตพื้นที่รอบพระวิหาร

บัวแก้ววิเคราะห์คำตัดสินศาลโลกพร้อมกรมแผนที่ไปศึกษารายละเอียด ยืนยันเรื่องดินแดนสองฝ่ายต้องเจรจาร่วมกัน

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาวิเคราะห์ผลคำตัดสินศาลโลกคดีปราสาทพระวิหาร เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สภาความมั่นคงแห่งชาติ  (สมช.) กองทัพ กระทรวงกลาโหม และสำนักอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อบรรยายสรุปถึงผลคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก เมื่อ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา

โดยที่ประชุมได้หารือในมิติต่างๆ โดยเฉพาะย่อหน้าที่ 98 และ 99 ที่ศาลโลกตัดสินพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร หรือ Vicinity  ตีความว่า พื้นที่ยอดเขาพระวิหาร หรือ Promontory จึงมีความจำเป็นต้องศึกษาให้รอบคอบต่อแนวทางการดำเนินการ โดยมอบให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านแผนที่ และกรมแผนที่ทหารไปศึกษารายละเอียด แต่ไม่ได้กำหนดกรอบเวลา

นอกจากนี้ ส่วนตัวคณะผู้ทำงานของกระทรวงมีกำหนดจะเดินทางไปพบกับทีมทนายความชาวต่างชาติฝ่ายไทย ในสัปดาห์แรกของต้นเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปจากกรมแผนที่ทหารแล้ว ก็จะนำมาเข้าที่ประชุม ก่อนจะนำเสนอรัฐบาลต่อไป และประเด็นถกเถียงกันว่าไทยจะเสียดินแดนหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องดูจากข้อยุติของการเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มเจราจา ดังนั้น ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจ เพราะก่อนที่จะไปเจรจา ทางฝ่ายไทยจะต้องดำเนินการตามกระบวนการภายในครบถ้วนก่อน

ส่วนประเด็นเรื่องการรับหรือไม่รับคำตัดสินของศาลโลก อยากให้ไปอ่านคำตัดสินของศาลโลก ที่ระบุว่า ให้ทั้งสองฝ่ายไปเจรจาบนพื้นฐานของความสุจริตใจ (in good faith) เพื่อหาข้อยุติที่ทั้งสองฝ่ายรับได้ สำหรับความคืบหน้าการแปลเอกสาร เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมนัดแรก และสามารถดำเนินการไปได้ 20 ย่อหน้า จากทั้งหมด 100 กว่าย่อหน้า ซึ่งกระทรวงจะดำเนินการอย่างเร็วที่สุด และต้องมีความถูกต้องชัดเจน คาดว่า จะยังไม่เสร็จในสัปดาห์นี้ แต่เมื่อเอกสารพร้อมแล้วก็จะดำเนินการแจกจ่ายคำแปลดังกล่าวแน่นอน