ยึดรถหรูหนีภาษี9คันกว่า100ล.

ผบช.ภ.2 ตรวจยึดรถหรูหนีภาษี 9 คัน มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท

พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐนพล มณีภาค รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สุรพล  วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช.ภ.2 และ พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.สส.ภ.2 แถลงผลตรวจยึดและจับกุมรถยนต์หรูจำนวน 9 คัน ที่หลบหนีภาษีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร และเป็นรถยนต์ที่นำเข้ามาเป็นชิ้นส่วน หลีกเลี่ยงภาษี  เพื่อยื่นจดทะเบียนเป็นรถยนต์จดประกอบจากอะไหล่และชิ้นส่วนเก่า ซึ่งไม่สามารถจดทะเบียนได้ เนื่องจากขัดต่อนโยบายของรัฐ 

พล.ต.ท.กวี กล่าวว่า การตรวจยึดในครั้งนี้ ประกอบด้วย รถยนต์เบนท์เลย์ รุ่น คอนติเนตัน จำนวน 1 คัน รถยนต์โตโยต้า รุ่น เวล์ฟายน์ จำนวน 2 คัน รถเบนซ์ รุ่น E250 จำนวน 1 คัน รถเบนซ์ รุ่น CLK จำนวน 1 คัน รถ BMW รุ่น 253i จำนวน 1 คัน และรุ่น 320 i จำนวน 2 คัน รวม 9 คัน มูลค่าขายและต้องเสียภาษีศุลกากรรวมทั้งสิ้นกว่า 100 ล้านบาท
 
พล.ต.ท.กวี กล่าวอีกว่า รถเหล่านี้ ถูกขบวนการลักลอบนำมาหลอกขายให้กับประชาชนทั่วไป ในเขตพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก หรือ พื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมกับนำรถยนต์ที่ผิดกฎหมาย มาสวมเอกสารทะเบียน เพื่อหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ และทำให้ผู้อื่นว่าเป็นรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และนำไปใช้ประกอบอาชญากรรมอื่นๆ อีกด้วย ทำให้รัฐไม่ได้ภาษีนำเข้า และทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อน เพราะคนที่ซื้อไปใช้ไม่สามารถต่อทะเบียนได้

สำหรับการตรวจยึดในครั้งนี้ เจ้าของรถยินยอมให้ตรวจยึดไปตามกฎหมาย แต่เจ้าของไม่มีความผิดถึงขั้นติดคุกแต่อย่างใด  ซึ่งหากต้องการรถยนต์คันดังกล่าวคืน ก็ต้องไปติดต่อประมูลที่กรมศุลกากร พร้อมเสียค่าปรับ 300 เปอร์เซ็นต์ 

พล.ต.ท.กวี  กล่าวต่อไปว่า  สำหรับรถยนต์หรูเหล่านี้ มีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แต่เมื่อใครนำเข้ามาใช้ในพื้นที่ภาคตะวันออก และหากตรวจสอบแล้วเป็นรถที่หลบเลี่ยงภาษีก็จะยึดทันที โดยเจ้าของรถก็ยินยอมให้ตรวจยึด เพราะทราบดีว่าเป็นรถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และเตรียมขยายผลต่อไป เพื่อนำรายได้เข้าสู่รัฐเพิ่มขึ้น