posttoday

สั่งปลดผู้บริหารสหกรณ์ยูเนี่ยนยกชุด

09 ตุลาคม 2556

ดีเอสไอ-กรมส่งเสริมสหกรณ์ แถลงปลดคณะกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ทั้งชุด 13 คนพ้นเก้าอี้ พร้อมเร่งติดตามทรัพย์คืน

ดีเอสไอ-กรมส่งเสริมสหกรณ์ แถลงปลดคณะกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ทั้งชุด 13 คนพ้นเก้าอี้ พร้อมเร่งติดตามทรัพย์คืน

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. เวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้บริหารสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น โดยเฉพาะประเด็นเงินฝากของสมาชิกสหกรณ์  ไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมชาย  ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะนายทะเบียนสหกรณ์  พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ  ได้เดินทางไปที่ทำการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เพื่อทำการปลดนายศุภชัย  ศรีศุภอักษร  ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ ออกจากตำแหน่ง และให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ ชุดใหม่เข้าดำเนินการแทนชั่วคราว

นายสมชาย  ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์  กล่าวว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ มีปัญหามาตั้งแต่ช่วงปี 2551 และได้สั่งการให้แก้ไขจุดที่เป็นปัญหา  แต่ไม่มีการแก้ไขตามคำสั่ง   อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ใช้ระยะเวลาติดตามพฤติกรรมของคณะกรรมการชุดที่ 29 ที่มีนายศุภชัย เป็นประธานมาตลอด  กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ได้มีคำสั่งปลดคณะกรรม การบริหารชุดที่ 29 จำนวน 13 คน พ้นตำแหน่งทั้งคณะ   พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ขึ้นมาบริหารงานแทน  โดยคณะกรรมการชุดใหม่จะมีหน้าที่เร่งเข้าไปทำแผนการฟื้นฟูสหกรณ์ยูเนี่ยน ฯ ให้เสร็จสิ้นภายใน 180 วัน จากนั้นจะจัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่  ซึ่งคณะกรรมการบริหารที่ถูกปลดจะไม่สามารถเข้ามารับตำแหน่งได้อีก  และมีผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสหกรณ์อื่นด้วย

อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ความรับผิดชอบหลักของคณะกรรมการบริหารชุดใหม่คือ เร่งฟื้นฟูเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากสมาชิก จากการพิจารณายอดเงินที่เสียหายเชื่อว่าเป็นยอดเงินที่สามารถทำแผนฟื้นฟูได้  โดยวันนี้ผมยังชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่สหกรณ์เพื่อไม่ให้มีการโยกย้ายเอกสารที่ต้องนำไปตรวจสอบ  อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่างเพิ่งตื่นตระหนกไปถอนเงินต้องรอเวลาสักระยะ โดยแนวทางคือการระดมเงินจากชุมนุมสหกรณ์มาช่วยเหลือ

นายสมชาย  กล่าวว่า สำหรับในเรื่องของการติดตามเงินนั้น  เป็นหน้าที่ของดีเอสไอและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ที่ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินอยู่แล้ว ส่วนข้อมูลที่พบว่ามีการนำเงินสหกรณ์ออก ไปบริจาคให้วัดเป็นจำนวนมากนั้น หากเป็นนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ก็ต้องดำเนินการเอาผิดตามระเบียบ รวมถึงต้องติด ตามนำเงินกลับคืนมาให้สหกรณ์  อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบด้วยว่ามีการลงมติจากคณะกรรมการสหกรณ์ฯ อนุมัติให้นำเงินไปบริจาคหรือไม่

นายสมชาย กล่าวต่ออีกว่า สำหรับสหกรณ์ของประเทศไทยมีทั้งหมด 7 ประเภท คือ สันนิบาตสหกรณ์ ผู้นำสหกรณ์ทั้ง6 ประเภท คือ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน สหกรณ์ประมง  สหกรณ์บริการเดินรถ สหกรณ์ร้านค้า ซึ่งได้มีการแต่งตั้งผู้นำสหกรณ์ทั้งประเทศ ได้แก่ประธานสันนิบาตสหกรณ์ซึ่งเป็นสหกรณ์หลัก  และผู้นำสหกรณ์ทั้ง6 ประเภทดังกล่าว รวมทั้งส่วนกรรมการส่วนราชการจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรทมตรวจบัญชีสหกรณ์ ที่เป็นผู้แทนที่สหกรณ์ของสหกรณ์ที่เอาเงินไปฝากไว้ เช่น สหกรณ์จุฬา  สหกรณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สหกรณ์กรมบัญชีกลาง

ขณะที่นายกิติก้อง  คณาจันทร์  ผอ.ศูนย์ปราบปรามคดีฟอกเงินและยาเสพติด ดีเอสไอ  เชื่อว่าหลังปลดคณะกรรมการชุดที่มีปัญหาไปแล้ว  การเข้าไปขอตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องจะสะดวกมากขึ้น หลังจากนี้จะเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกรรมที่รับผิด ชอบดูแลเรื่องการปล่อยเงินมาให้ปากคำ  เพื่อนำมาประกอบข้อมูลของปปง.ที่ติดตามเส้นทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อหาความเชื่อมโยงของเงินที่นำออกไปว่าไปลงทุนหรือตกอยู่กับบุคคลใด

ทั้งนี้ มีสหกรณ์ต่างๆ ที่นำเงินมาฝากกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนจำนวนมาก เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1,431 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 700 ล้านบาท  สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา 502 ล้านบาท  สหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธร 930 ล้านบาท  สหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานี 800 ล้านบาท  สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ 147 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์กรมบัญชีกลาง 149 ล้านบาท เป็นต้น

มีรายงานว่า  กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้พยายามเก็บหลักฐาน จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกกว่า 3 เดือนเพื่อสั่งปลดนายศุภชัย สำหรับนายศุภชัย มีความสนิทสนมกับแกนนำบางคนในพรรคเพื่อไทย จึงทำให้การดำเนินการต้องทำอย่างรอบคอบและรัดกุม 

สั่งปลดผู้บริหารสหกรณ์ยูเนี่ยนยกชุด