ทางหลวงชนบทเผยถนนตัดขาด32สายทาง

กรมทางหลวงชนบท เผยมีถนนถูกตัดขาด 32 สายทาง เร่งซ่อมแซมพร้อมประกาศประชาชนระมัดระวังสัญจร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมทางหลวงชนบทได้สรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ 8 ตุลาคม มีถนนและสะพานในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบ  21 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ประกอบด้วย พิจิตร, เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ ยโสธร, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ฉะเชิงเทรา, ชัยนาท, ชลบุรี, นครนายก, ปราจีนบุรี, พระนครศรีอยุธยา, ระยอง, ลพบุรี, สระแก้ว, สุพรรณบุรี, อุทัยธานี รวมทั้งสิ้น 238 สายทาง สัญจรผ่านได้ 206 สายทาง ผ่านไม่ได้อยู่ระหว่างดำเนินการ 32 สายทาง ทุกจังหวัดอยู่ระหว่างเฝ้าระวังน้ำท่วมสายทางและดำเนินการป้องกันอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ที่อยู่ในความสนใจ คือ อำเภอบ้านสร้าง, กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดสระแก้ว

พื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ประสบอุทกภัย 23 สายทาง ผ่านไม่ได้อยู่ระหว่างดำเนินการ 5 สายทาง (ปจ.2042, ปจ.4013, ปจ.4025, ปจ.3017, ปจ.4036) ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุง และเฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากยังมีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง การสัญจรผ่านไม่ได้ทั้ง 5 สายทาง แยกเป็นถนน/  คอสะพานขาด 1 สายทาง (ปจ.2042) และมีน้ำท่วมสูง (ประมาณ 0.70 – 0.80 เมตร) 4 สายทาง (ปจ.4013, ปจ.4025, ปจ.3017, ปจ.4036) ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงแก้ไขและป้องกันเส้นทาง เพื่อให้ประชาชนใช้เส้นทางสัญจรได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ กรมได้สนับสนุนเครื่องจักรในการขนส่งและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้จังหวัดปราจีนบุรีจนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ

พื้นที่จังหวัดสระแก้ว ประสบอุทกภัย 24 สายทาง ผ่านไม่ได้อยู่ระหว่างดำเนินการ 1 สายทาง (สก.2002) ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุง และเฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากยังมีฝนตกในพื้นที่ และน้ำจากจังหวัดปราจีนบุรีไหลเข้ามาสมทบอย่างต่อเนื่อง สายทางดังกล่าวไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เนื่องจากมีน้ำท่วมสูง ประมาณ 0.80 ซม.

พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ประสบอุทกภัย 25 สายทาง  ทุกสายทางซ่อมแซมเบื้องต้นให้สามารถสัญจรไปมาได้แล้วทุกสายทาง ขณะนี้อยู่ระหว่างเฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากยังมีฝนตกในพื้นที่

พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ประสบอุทกภัย 39 สายทาง ทุกสายทางซ่อมแซมเบื้องต้นให้สามารถสัญจรไปมาได้แล้วทุกสายทาง ขณะนี้อยู่ระหว่างเฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากยังมีฝนตกในพื้นที่

ส่วนความช่วยเหลือด้านอื่น กรมทางหลวงชนบท ได้สั่งการให้สำนักทางหลวงชนบท/สำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดในพื้นที่อุทกภัย สนับสนุนเครื่องมือ เครื่องจักร ในการรับ-ส่งประชาชนและสิ่งของ สำหรับเส้นทางที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง อีกทั้งได้แจกถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย

ขณะที่ การเฝ้าระวังสถานการณ์ พบว่า ยังคงมีแนวการเคลื่อนตัวของร่องความกดอากาศ/ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่แนวจังหวัดราชบุรี  เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ อีกทั้งจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคกลาง กรมทางหลวงชนบทได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และร่วมแก้ไขปัญหากับหน่วยงานอื่นๆ และพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ

สำหรับ การฟื้นฟูหลังน้ำลด กรมทางหลวงชนบท ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่สำรวจสภาพสายทางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ภายหลังน้ำลดให้เร่งดำเนินการสำรวจ ออกแบบ ประมาณราคา เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณฟื้นฟูทางหลวงชนบทอันเนื่องมาจากอุทกภัยต่อไป ซึ่งทุกสายทางที่น้ำลดสู่สภาพปกติ กรมทางหลวงชนบท ได้ซ่อมแซมเบื้องต้นให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้เป็นการชั่วคราวแล้ว