กลม บางกรวยป่วยหนักศาลฎีกาเลื่อนอ่านคดีล็อคหวย
ศาลฎีกาเลื่อนอ่านคดีล็อคหวย ไปเป็นวันที่ 28 ต.ค. เหตุกลม บางกรวยป่วยหนักเส้นเลือดสมองแตก เดินไม่ได้
ศาลฎีกาเลื่อนอ่านคดีล็อคหวย ไปเป็นวันที่ 28 ต.ค. เหตุกลม บางกรวยป่วยหนักเส้นเลือดสมองแตก เดินไม่ได้
ที่ห้องพิจารณา 611 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 26 ก.ย.นี้ เวลา 11.00 น. ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหวยล็อกที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสมตระกูล จอบกระโทก,พ.อ.อ.กิตติชาติ กุลประดิษฐ์ ,นายณรงค์ อุ่นแพทย์ หรือ กลม บางกรวย ผู้กว้างขวางย่านบางกรวย,นายสุริยัน ดวงแก้ว หรือ ผู้ใหญ่หมึกและนายพิชัย เทพอารักษ์ หรือ ชัย โคกสำโรง ผู้กว้างขวางจ.ลพบุรี เป็นจำเลยที่ 1-5ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และซ่องโจร กรณีวันที่15 ธ.ค.42-10 พ.ย.44 จำเลย กับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันเกณฑ์คนเข้าไปรับชมการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1มิ.ย.44 เพื่อให้ได้รับเลือกเป็นตัวแทนตักลูกบอล โดยพวกจำเลยได้บ้วนของเหลวที่อมอยู่ในปาก ลงในภาชนะใส่ลูกบอล ก่อนเลือกตักลูกบอลหมายเลข 1 ทำให้ผลการออกสลากรางวัลที่ 1 เป็นเลขที่ออกคือ113311
โดยวันนี้ ปรากฏว่ามีเพียงนายสมตระกูล จำเลยที่ 1 และนายพิชัย จำเลยที่ 5 เดินทางมาศาล ส่วนนายสุริยัน จำเลยที่ 4 ย้ายที่อยู่ไม่สามารถติดต่อได้
ขณะที่ทนายความของนายณรงค์ หรือ กลม บางกรวย จำเลยที่ 3 ได้แถลงต่อศาลขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปก่อน เนื่องจากจำเลยที่ 3 มีอาการป่วยไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ได้ พร้อมยื่นใบรับรองแพทย์ รพ.บางโพ ลงวันที่ 25 ก.ย.56 โดยศาลได้ซักถามบุตรสาวของนายณรงค์จำเลยที่ 3 ที่เป็นนายประกันซึ่งวันนี้มาศาล ก็ระบุว่า บิดาเป็นเส้นเลือดก้านสมองและช่องสมองแตก เมื่อได้รับการผ่าตัดแล้วยังไม่สามารถลุกขึ้นเดินหรือกินข้าวด้วยตัวเองได้ แต่ยังมีสติสัมปชัญญะรับรู้
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่ามีเหตุสมควร จึงให้เลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 28 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น. พร้อมกำชับให้บุตรสาว ซึ่งเป็นนายประกันพาตัวจำเลยที่ 3 มาฟังคำพิพากษา และให้ส่งหมายศาลให้นายสุริยันจำเลยที่ 4 ใหม่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.47 เห็นว่าการกระทำของพวกจำเลยเป็นความผิดต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ ที่จะต้องปฏิบัติออกสลากด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ทำให้กระทบต่อความน่าเชื่อถือ สร้างความเสียหายโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม พิพากษาจำคุกจำเลยทั้งห้าฐานฉ้อโกงคนละ 2 ปี และฐานซ่องโจรคนละ 4 ปี รวมจำคุกจำเลยคนละ 6 ปี ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.49 ยืนตามศาลชั้นต้นในส่วนของจำเลยที่ 1-4 จำคุกคนละ 6 ปี ส่วนจำเลยที่ 5 ให้จำคุก 2 ปีเฉพาะความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์ ต่อมาจำเลยยื่นฎีกาต่อสู้คดี
ที่ห้องพิจารณา 611 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 26 ก.ย.นี้ เวลา 11.00 น. ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหวยล็อกที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสมตระกูล จอบกระโทก,พ.อ.อ.กิตติชาติ กุลประดิษฐ์ ,นายณรงค์ อุ่นแพทย์ หรือ กลม บางกรวย ผู้กว้างขวางย่านบางกรวย,นายสุริยัน ดวงแก้ว หรือ ผู้ใหญ่หมึกและนายพิชัย เทพอารักษ์ หรือ ชัย โคกสำโรง ผู้กว้างขวางจ.ลพบุรี เป็นจำเลยที่ 1-5ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และซ่องโจร กรณีวันที่15 ธ.ค.42-10 พ.ย.44 จำเลย กับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันเกณฑ์คนเข้าไปรับชมการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1มิ.ย.44 เพื่อให้ได้รับเลือกเป็นตัวแทนตักลูกบอล โดยพวกจำเลยได้บ้วนของเหลวที่อมอยู่ในปาก ลงในภาชนะใส่ลูกบอล ก่อนเลือกตักลูกบอลหมายเลข 1 ทำให้ผลการออกสลากรางวัลที่ 1 เป็นเลขที่ออกคือ113311
โดยวันนี้ ปรากฏว่ามีเพียงนายสมตระกูล จำเลยที่ 1 และนายพิชัย จำเลยที่ 5 เดินทางมาศาล ส่วนนายสุริยัน จำเลยที่ 4 ย้ายที่อยู่ไม่สามารถติดต่อได้
ขณะที่ทนายความของนายณรงค์ หรือ กลม บางกรวย จำเลยที่ 3 ได้แถลงต่อศาลขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปก่อน เนื่องจากจำเลยที่ 3 มีอาการป่วยไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ได้ พร้อมยื่นใบรับรองแพทย์ รพ.บางโพ ลงวันที่ 25 ก.ย.56 โดยศาลได้ซักถามบุตรสาวของนายณรงค์จำเลยที่ 3 ที่เป็นนายประกันซึ่งวันนี้มาศาล ก็ระบุว่า บิดาเป็นเส้นเลือดก้านสมองและช่องสมองแตก เมื่อได้รับการผ่าตัดแล้วยังไม่สามารถลุกขึ้นเดินหรือกินข้าวด้วยตัวเองได้ แต่ยังมีสติสัมปชัญญะรับรู้
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่ามีเหตุสมควร จึงให้เลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 28 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น. พร้อมกำชับให้บุตรสาว ซึ่งเป็นนายประกันพาตัวจำเลยที่ 3 มาฟังคำพิพากษา และให้ส่งหมายศาลให้นายสุริยันจำเลยที่ 4 ใหม่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.47 เห็นว่าการกระทำของพวกจำเลยเป็นความผิดต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ ที่จะต้องปฏิบัติออกสลากด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ทำให้กระทบต่อความน่าเชื่อถือ สร้างความเสียหายโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม พิพากษาจำคุกจำเลยทั้งห้าฐานฉ้อโกงคนละ 2 ปี และฐานซ่องโจรคนละ 4 ปี รวมจำคุกจำเลยคนละ 6 ปี ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.49 ยืนตามศาลชั้นต้นในส่วนของจำเลยที่ 1-4 จำคุกคนละ 6 ปี ส่วนจำเลยที่ 5 ให้จำคุก 2 ปีเฉพาะความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์ ต่อมาจำเลยยื่นฎีกาต่อสู้คดี