posttoday

ชาวบ้านประณามมือมืดทำลายกำแพงขวางทำเหมืองทอง

22 กันยายน 2556

กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดอ.วังสะพุง จ.เลยออกแถลงการณ์ประณามกลุ่มชายฉกรรจ์ บุกทลายกำแพงที่ชาวบ้านสร้างขัดขวางการทำเหมืองทองในพื้นที่

กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดอ.วังสะพุง จ.เลยออกแถลงการณ์ประณามกลุ่มชายฉกรรจ์ บุกทลายกำแพงที่ชาวบ้านสร้างขัดขวางการทำเหมืองทองในพื้นที่

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด ต.เขาลวง อ.วังสะพุง จ.เลย ได้เผยแพร่แถลงการณ์ กรณีการทำลายกำแพงที่สร้างขึ้นจากมติชุมชน โดยมีรายละเอียดดังนี้ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ได้เริ่มกิจการเหมืองแร่ทองคำเมื่อปีพ.ศ.2549 เป็นต้นมา ด้วยการอนุมัติจาก กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยความคาดหวังริเริ่มว่าจะทำให้ราษฎรทั้ง 6 หมู่บ้านและบริเวณใกล้เคียงของตำเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย มีงานทำเพิ่มรายได้ เศรษฐกิจจะดีขึ้น ทั้งในระดับครอบครัว จังหวัด และประเทศชาติ

ก่อนดำเนินการเหมืองแร่ทองคำ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ได้ดำเนินการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)และได้รับการอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)ดังกล่าว จวบจนได้รับใบอนุญาตประทานบัตรให้ดำเนินการกิจการเหมืองแร่ทองคำ ซึ่งคาดว่าการอนุมัติให้ผ่านรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) นั้นจะเป็นหลักประกันและควบคุมดูแลความปลอดภัยในด้านสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่รอบๆเหมืองแร่ทองคำ แต่แล้วในปี พ.ศ. 2550 ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดได้รับแจ้งความผิดปกติของน้ำให้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ จนมีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐและนำไปสู่การลงโทษบริษัท ทุ่งคำ จำกัดในความผิดบกพร่อง เป็นการลงโทษปรับจำนวนเงิน 2,000 บาท ต่อมาในปี พ.ศ. 2553 เจ้าหน้าที่ของรัฐระดับจังหวัดนำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมนักข่าวทั้งท้องถิ่นและส่วนกลาง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งและเห็นร่องรอยของผนังเขื่อนกักเก็บกากสารไซยาไนด์ มีรอยปริรั่วซึมด้านทิศใต้ แต่ไม่มีความคืบหน้าประการใด

ปัญหาและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำบาดาล น้ำผิวดิน สัตว์น้ำ พืชผักน้ำ ตลอดจนการปนเปื้อนสารไซยาไนด์ ตะกั่ว และปรอท ในเลือดของราษฎร 6 หมู่บ้าน รวมทั้งการแตกแยกความสามัคคีของราษฎร ๖ หมู่บ้าน มีการฟ้องร้องกล่าวหากันจนเป็นความในชั้นศาลเกิดขึ้นตลอดเป็นเนื่องๆ ในปี พ.ศ.2555 เขื่อนกักเก็บกากสารไซยาไนด์ พังทลายลงอันเป็นเหตุอันตรายถึงแก่ชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งถือว่าเป็นความผิดพลาดและบกพร่องอย่างใหญ่หลวง จนทำให้บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ถูกคำสั่งให้หยุดกิจการชั่วคราว แต่ก็ยังได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการต่อไปได้อีก

ความพยายามในการที่จะดำเนินกิจการเหมืองแร่ทองคำของบริษัท ทุ่งคำ จำกัดยังคงดำเนินการต่อไปไม่อย่างสิ้นสุด ทั้งๆที่การดำเนินกิจการเหมืองแร่ทองคำได้สร้างความเดือดร้อนและความไม่สงบในพื้นที่มาตลอด โดยการจะขยายพื้นที่การทำเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่ใหม่เรื่อยๆ เช่น ที่แปลง 104/2538 และ แปลง 76/2539 ทั้งๆที่มีมติและเป็นคำสั่งของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 ให้ชะลอการขยายพื้นที่การทำเหมือง หาสาเหตุของการปนเปื้อน และศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ แต่บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ไม่ใยดีต่อคำสั่งของคณะรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นเหตุให้เกิดการละเมิดโดยการปิดกั้นไม่ให้ผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วมการประชุมการทำรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 และ วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556

เหตุการณ์ยังไม่หยุดเท่านั้น บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ยังได้ฟ้องร้องราษฎรผู้เรียกร้องความเป็นธรรมในคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายเป็นเงินมากกว่า 50 ล้านบาท เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ได้รับความใส่ใจจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งทำได้เพียงการเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์รายงาน และ เงียบหายไป เราในนามของ “กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้าน” เห็นว่าบริษัท ทุ่งคำ จำกัด และเจ้าหน้าที่ของรัฐบางหน่วยงาน ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดมา เห็นได้ประจักษ์แล้วว่า ความผิดที่บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ได้กระทำผิดนั้น มีการลงโทษเพียงตักเตือน ปรับ หรือหยุดกิจการชั่วคราวเท่านั้น

วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556 ณ เวลาประมาณ 23.00 น. ถึง 24.00 น.ของวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556 มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนไม่ต่ำว่า 20 คนพร้อมอาวุธสวมหมวกผ้าไหมพรมคลุมปิดหน้า ทำลายกำแพงที่ปิดกั้นขวางเส้นทางที่ถูกสร้างโดยราษฎรและกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้านเพื่อปกป้องแผ่นดินแม่ พังทลายลงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไม่ใยดีใดๆทั้งสิ้น เปิดเส้นทางให้บริษัท ทุ่งคำ จำกัดได้ผ่านขึ้นหรือลงพื้นที่ทำการเหมืองตามปกติ เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเจ็บปวดให้กับราษฎร 6 หมู่บ้านเป็นอย่างยิ่ง

ในเบื้องต้น “กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้าน” ขอประณามการทำลายกำแพงที่ปิดกั้นถนนเพื่อดูแลและป้องกันเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ราษฎร บริเวณรอบเหมืองแร่ทองคำ เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน ไร้จิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ โลภอยากได้เป็นของตน โง่เขลา สิ้นคิด เราขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวมาทำการลงโทษ อีกทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบกรณีพิพาทระหว่างบริษัท ทุ่งคำ จำกัด กับ ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจาก 6 หมู่บ้าน ทำการสอบสวนเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้าน จะทำการปกป้องแผ่นดินแม่ และต่อสู้กับความอยุติธรรมทุกรูปแบบตามกรอบของกฎหมาย อย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม

“กำแพงชุมชนก่อขึ้นแล้ว กำแพงแห่งความกลัวในใจคุณ พังทลายลงหรือยัง”