posttoday

อัยการขอหมายจับทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง

02 กันยายน 2556

อัยการแจ้งพนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับทายาทเครื่องดื่มชูกำลังหลังไม่มาฟังคำสั่งฟ้อง อ้างป่วยต้องรักษาตัวที่สิงคโปร์

อัยการแจ้งพนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับทายาทเครื่องดื่มชูกำลังหลังไม่มาฟังคำสั่งฟ้อง อ้างป่วยต้องรักษาตัวที่สิงคโปร์

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. นายฤชา ไกรฤกษ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษฝ่ายคดีอาญาใต้ 1 ในวันที่ 3 ก.ย. อัยการจะแจ้งพนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับ นายวรยุทธ อยู่วิทยา บุตรชายนักธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง  ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายฯ หลังจากที่วันนี้นายวรยุทธไม่เดินทางมาฟังคำสั่งฟ้อง 3 ข้อหาตามที่นัดไว้

ทั้งนี้ นายวรยุทธได้มอบหมายให้นายธนิต บัวเขียว ทนายความส่วนตัว นำใบรับรองแพทย์จาก M.B.B.S. (Singapore) ประเทศสิงคโปร์ ลงวันที่ 1 ก.ย.มายื่นให้อัยการ โดยระบุเหตุว่าป่วยกะทันหันไม่สามารถเดินทางมาได้

นายฤชา กล่าวว่า เมื่อไม่ได้ตัวมาจึงไม่สามารถนำตัวไปฟ้องต่อศาลได้ ทำให้ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดฯ ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษมีอายุความ 1 ปีที่จะหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย.นี้ ไม่สามารถนำตัวไปฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ทัน แต่ก็ไม่มีผลต่อสำนวน เนื่องจากคดีนี้ยังมีความผิดที่อัยการสั่งฟ้องนายวรยุทธอีก 2 ข้อหาใหญ่คือขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทำให้เสียทรัพย์ ข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน

ทั้งนี้อัยการได้ร่างคำฟ้องไว้พร้อมแล้วทุกข้อหา แต่เมื่อหมดอายุความก็จะแก้คำฟ้องคงเหลือ 2 ข้อหาหลัก โดยบรรยายว่าเป็นผลจากการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดฯ โดยจะทำหนังสือเสนอนายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เพื่อให้พิจารณามีคำสั่งว่าจะให้นำตัวมาฟ้อง 2 ข้อหาที่เหลือเมื่อใด ซึ่งในการฟ้องคดีอัยการจะระบุท้ายฟ้องด้วยว่าขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเห็นว่ามีพฤติการณ์หลบหนีเลื่อนนัดอัยการหลายครั้ง

ด้าน นายธนิต ขณะนี้นายวรยุทธพักรักษาตัวอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากมีอาการป่วยกะทันหันสืบเนื่องจากอาการที่เป็นไข้หวัดใหญ่ก่อนหน้านี้ ซึ่งเคยนำใบรับรองแพทย์โรงพยาบาลย่านปทุมธานีมาให้อัยการเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา และนายวรยุทธได้เดินทางไปติดต่อเรื่องธุรกิจที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยครั้งแรกคิดว่าจะสามารถเดินทางกลับและมาพบอัยการได้ทันวันที่ 2 ก.ย.นี้ แต่เมื่อป่วยกะทันหันจึงต้องรักษาอาการ ซึ่งแพทย์ได้ให้ความเห็นว่าจะต้องพักรักษาตัวก่อนอีกประมาณ 2-3 วัน แล้วจะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อพบอัยการ ซึ่งการยื่นใบรับรองแพทย์ครั้งนี้ทางนายวรยุทธก็มีความหนักใจเช่นกัน แต่มีความจำเป็นจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบเลี่ยง