ภัยวิ่งราว ใกล้ตัว อันตราย

โดย...ไซเรน ภาพ : หาภาพประกอบให้ด้วยครับ

ปัญหาอาชญากรรมวิ่งราวทรัพย์ยังคงเป็นภัยร้ายที่ติดอันดับต้นๆ ของเมืองกรุง สร้างความขวัญผวาให้กับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะยิ่งสาวที่หลายคนต้องมาตกเป็นเหยื่อ

ทั้งภาพและคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ถูกแพร่หลายไปยังโลกโซเชียลมีเดีย ภาพเหตุการณ์ที่คนร้ายฉุดกระชากกระเป๋าถือ หรือซ้อนรถจักรยานยนต์กระชากกระเป๋าแล้วหลบลี้หนีหายไป กลายเป็นภาพชินตาที่เห็นกันจนเป็นเรื่องปกติ แต่ถือเป็นภัยร้ายที่สร้างความเสียหายให้กับเหยื่อไม่น้อยทีเดียว

ด้วยทรัพย์สินมีค่าที่อยู่ในกระเป๋า ทั้งเงินสตางค์ที่ต้องใช้จ่าย เอกสารที่จำเป็น หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือสามารถอันตรธานหายวับไปในพริบตา เมื่อมิจฉาชีพร้ายจ้องจะลงมือ

เฉกเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวนางหนึ่ง ผ่านทางคลิปบนเว็บไซต์ยูทูบ ขณะที่สาวเจ้ากำลังเดินอยู่ภายในซอยแห่งหนึ่งห้วงเวลากลางวันแสกๆ แต่มือและสายตาก็กำลังง่วนอยู่กับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนอย่างไม่ลืมหูลืมตา กระทั่งมีรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ซ้อนกันมา ขับผ่านมาเห็นเข้า สบจังหวะและโอกาสจึงวกรถกลับทันทีและขับด้วยความเร็ว กระชากกระเป๋าถือของเธอที่ไม่ทันระวัง หลบหนีหายไป ส่วนตัวเธอเองก็ได้รับบาดเจ็บจากที่ถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวด้วย

หรือแม้แต่เด็กนักเรียนหนุ่มที่ถูก “ตบมือถือไอโฟน” ขณะยืนรอรถเมล์ย่านรามคำแหง เมื่อมิจฉาชีพในคราบจิ๊กโก๋ ข่มขู่เด็กนักเรียน ด้วยความกลัวจะถูกทำร้าย จึงต้องยินยอมมอบมือถือราคาแพงให้และไปแจ้งความคนร้ายก็เข้ากลีบเมฆไปแล้ว หนีหายลอยนวล

สองเหตุการณ์ข้างต้นเป็นภัยร้ายที่ถือว่าใกล้ตัวประชาชนมากทีเดียว เพราะการฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สินของมีค่า สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา หากประมาทเพียงนิดเดียว ก็ตกเป็นเหยื่ออันโอชะได้แน่นอน

หน้าที่หลักของการปราบปรามต้องเป็นตำรวจเท่านั้น แต่แน่นอนว่าด้วยกำลังพลคงไม่สามารถไปดูแลได้ทุกคนทุกที่ตลอดเวลา ดังนั้น การเฝ้าระมัดระวังภัยวิ่งราวด้วยตัวเอง จึงเป็นเรื่องสำคัญของประชาชนทั่วไป

กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ก็มีวิธีมาแนะมานำให้ไปปฏิบัติ เพื่อจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของเหล่าร้าย คือ

เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันการฉก ชิง วิ่งราวทรัพย์เบื้องต้น ควรปฏิบัติ ดังนี้

1.ไม่ควรประดับประดาสิ่งของมีค่า เช่น สร้อยคอทองคำหรือสิ่งของมีค่าอย่างอื่นติดตัวไปในที่สาธารณะ หรือที่ชุมนุมชนต่างๆ

2.ขอให้เป็นคนช่างสังเกต ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือเดินในสถานที่ต่างๆ ขอให้สังเกตบุคคลรอบๆ ตัวว่ามีใครกำลังมองหรือไม่ สนใจในแง่ดีหรือในแง่ร้าย

3.เมื่อสังเกตแล้วพบว่ามีสิ่งบอกเหตุหรือผิดสังเกต เช่น มีคนเดินตามหรือมีคนสะกดรอยตาม มีคนขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาห่างๆ ก็ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่อื่น ที่เกี่ยวข้องได้ทราบพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยคนนั้นทันที

4.ไม่ควรเดิน หรือขับขี่รถจักรยานยนต์ไปคนเดียว หากสถานที่ที่จะไปเป็นทางเปลี่ยว มืด ก็ไม่ควรขับรถไปคันเดียว ควรจะรอผู้ที่จะร่วมเดินทางไปในเส้นทางเดียวกันสัก 23 คน

5.ไม่ควรวางกระเป๋าถือหรือสิ่งของมีค่าไว้ตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์โดยเด็ดขาด เพราะคนร้ายสามารถขับรถมาประชิดและหยิบฉวยไปโดยที่ท่านไม่คาดคิด และเหตุการณ์เช่นนี้มีอยู่เป็นประจำ

6.เมื่อเกิดเหตุให้ร้องขอความช่วยเหลือ จากผู้อื่นที่อยู่ข้างเคียงโดยทันที หรือรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใกล้ที่สุด โดยแจ้ง รูปพรรณ สัณฐาน และยานพาหนะที่คนร้ายใช้อย่างละเอียด เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามหรือแจ้งข่าวให้เจ้าหน้าที่อื่นๆ ได้ทราบ เพื่อช่วยติดตามต่อไป

7.เมื่อเกิดเหตุ ขอให้ตั้งสติให้ดี อย่าตกใจกลัวจนเกินไป แล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้ทราบทันที เพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงทีต่อไป

ทั้ง 7 ข้อข้างต้นสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้ เพื่อความปลอดภัยและระวังอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง อย่าประมาทเด็ดขาด เพราะนั่นอาจทำให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพได้ทันที โปรดระวัง!!!