posttoday

สาวแจ้งความเจอ"ด.ต."ข่มขู่-ทำร้าย"

11 กรกฎาคม 2556

สาวเข้าแจ้งความตำรวจกองปราบถูก "ด.ต." บุกบ้านพร้อมใช้ปืนยิงขู่ เผยเป็นแฟนเก่าเพื่อนหญิงที่พักอยู่ด้วยกัน

สาวเข้าแจ้งความตำรวจกองปราบถูก "ด.ต." บุกบ้านพร้อมใช้ปืนยิงขู่ เผยเป็นแฟนเก่าเพื่อนหญิงที่พักอยู่ด้วยกัน

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.เนตรนภา ไชอาวุธ อายุ 29 ปี ผู้สื่อข่าวนิตยสารพญาครุฑ ประจำ จ.เลย เข้าพบ พ.ต.อ.วรวุฒิ คุณะเกษม ผกก.3 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม กรณีที่ถูก ด.ต.นายหนึ่ง ในพื้นที่ จ.เลย บุกบ้านพัก ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ และมีทรัพย์สินประกอบด้วย นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน โทรศัพท์มือถือ ได้รับความเสียหาย รวมทั้งยังถูกตำรวจนายนี้ใช้อาวุธปืน ยิงข่มขู่ ก่อนจะนำรถยนต์ยี่ห้อมาสด้าของ น.ส.เนตรนภา ขับหลบหนีไป โดยทำหนังสือร้องทุกข์และสำเนาบันทึกประจำวันของ สภ.ท่าลี่ จ.เลย มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน

น.ส.เนตรนภา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 02.30 น.ขณะที่ตนกำลังพักอาศัยอยู่ที่บ้านใน อ.ท่าลี่ จ.เลย ของ น.ส.จริยกรณ์ ทองปั้นวรัธน์ อายุ 42 ปี เพื่อนสาว ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหารด้วย ระหว่างนั้นได้มี ด.ต.คนดังกล่าว บุกเข้ามาเคาะประตูห้อง และเรียกให้เปิดประตูหลายครั้ง ครั้งแรกตนรู้สึกกลัวยังไม่กล้าเปิด ก็ถูกพูดข่มขู่ว่าจะพังเข้าไป เมื่อตนยอมเปิดประตูแต่ยังไม่ทันพูดอะไร ด.ต.รายนี้ ก็ใช้เท้าถีบใส่ถูกเข้าที่หน้าอกตน แม้จะพยายามสอบถามเรื่องราว แต่ตำรวจนายนี้ก็ไม่ฟัง และกลับชักอาวุธปืนจากเอว ออกมาจ่อใส่ตน ด้วยความหวาดกลัวจึงวิ่งหลบหนีออกจากห้องพัก ซึ่งตนได้ยินเสียงปืนดังไล่หลัง 5 นัด จนชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ต่างพากันออกมาดูเหตุการณ์ ด.ต.รายนี้ จึงนำรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า ของตนที่จอดไว้ ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

น.ส.เนตรนภา กล่าวอีกว่า ต่อมาทาง ด.ต.คนดังกล่าว ได้นำรถของตนไปจอดทิ้งไว้ที่ลานวัดลาดปู่ทรงธรรม ที่อยู่ใกล้ๆ กัน อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกตกใจกลัวอย่างมาก เพราะไม่ทราบสาเหตุ และไม่ได้รู้จักกับ ด.ต.รายนี้มาก่อนแต่อย่างใด กระทั่งมาทราบเรื่องภายหลัง ว่า ด.ต.คนดังกล่าว เคยคบหาอยู่กับ น.ส.จริยกรณ์ เพื่อนสาว โดยอยูกินกันฉันท์สามีภรรยา แต่ไม่ได้จดทะเบียน ต่อมาทั้งสองได้เลิกรากันไป  เนื่องจาก ด.ต.นายนี้ มีครอบครัวแล้วโดยมีบุตร 1 คน หลังจากนั้น น.ส.จริยกรณ์ จึงมารู้จักกับตนและชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจร้านอาหารที่บ้านของ น.ส.จริยกรณ์ และได้มาอาศัยอยู่ด้วยกัน ที่ผ่านมา ก็ไม่คิดว่า ด.ต.คนดังกล่าว จะเข้าใจผิดว่า น.ส.จริยกรณ์ กำลังคบหาอยู่กับตน ซึ่งอาจทำให้ตำรวจนายนี้ เกิดความหึงหวง บุกเข้ามาก่อเหตุอย่างอุกอาจเช่นนี้

ผู้เสียหายรายนี้ กล่าวต่อว่า ภายหลังเกิดเหตุ ได้เข้าตรวจร่างกายและทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย ก่อนจะเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าลี่ จ.เลย โดยประสงค์จะดำเนินคดีกับ ด.ต.คนดังกล่าว ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาชิงทรัพย์ แต่หลังจากทางพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว คดีกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากคู่กรณีเป็นตำรวจในพื้นที่ และไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย จึงมาร้องทุกข์ที่ บก.ป.ในครั้งนี้

ด้าน พ.ต.อ.วรวุฒิ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.สอบปากคำผู้ร้องทุกข์ไว้ในเบื้องต้น ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป