posttoday

ศาลไม่รับคดีพุทธะอิสระฟ้องเณรคำฉ้อโกง

09 กรกฎาคม 2556

ศาลอาญาไม่รับฟ้องคดี หลวงปู่พุทธะอิสระ ฟ้อง เณรคำฉ้อโกง ชี้ไม่ใช้ผู้เสียหายโดยตรง

ศาลอาญาไม่รับฟ้องคดี หลวงปู่พุทธะอิสระ ฟ้อง เณรคำฉ้อโกง ชี้ไม่ใช้ผู้เสียหายโดยตรง 

ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 9 ก.ค.นี้ ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้องคดีหมายเลขดำ อ.2448/2556 ที่พระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือหลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ หรือนายวิระพล สุขผล อายุ 34 ปี ประธานสำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ต.บ้านยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ  พระภูมินทร์ ภูริปัญโญ พระเลขานุการของหลวงปู่เณรคำ นายสนอง วรอุไร นายสุขุม วงประสิทธิ นายภันธกานต์ กิ้มทอง นายภัทรเดช โสพรรณพานิชกุล นายวิชัย สุขอำภา นายพลวรรฒน์ สถิตเพียรศิริ และนายวิธิเนศวร์ พงศ์เผ่าพูล ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1- 9 คน ในความผิดฐานแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายแสดงว่าเป็นพระภิกษุสงฆ์ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

โดยศาลพิเคราะห์รายละเอียดคำฟ้องที่ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่่ผ่านมาและข้อกฎหมายแล้ว เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ในข้อหาแต่งกายแสดงว่าเป็นภิกษุโดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 208 และจำเลยที่ 2-9 เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดข้อหาดังกล่าว อันเป็นความผิดเกี่ยวกับศาสนา ซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระทำความผิดต่อรัฐโดยตรง มิใช่กระทำโดยเฉพาะเจาะจงแก่บุคคลใดเป็นส่วนตัว รัฐเท่านั้นเป็นผู้เสียหายที่มีอำนาจดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิด แม้โจทก์จะเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ก็มิใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) จึงไม่มีอำนาจฟ้องในข้อหานี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28

ส่วนความผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 เมื่อตามฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 9 หลอกลวงโจทก์และที่อ้างว่าจำเลยทั้ง 9 กระทำโดยทุจริต ร่วมกันหลอกลวงประชาชน ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความซึ่งควรบอกให้แจ้ง ไม่ได้ทำให้โจทก์หลงเชื่อและให้ไปซึ่งทรัพย์สินแก่จำเลยทั้ง 9 โจทก์จึงไม่ได้เป็นบุคคลที่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำของจำเลยทั้ง 9 จึงไม่เป็นผู้เสียหายในความผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหานี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28 เช่นกัน