ตร.พิจิตรออกหมายจับ8ผู้ต้องหาเอี่ยวโกงชาวนา

ตำรวจพิจิตรออกหมายจับ 8 ผู้ต้องหาเอี่ยวโรงสีโกงชาวนาจำนำและยักยอกข้าวอ.ต.ก.จำนวน1.2หมื่นตัน

พ.ต.อ.ธวัชชัย มวญนรา  รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า  ได้รวบรวมหลักฐานและขออำนาจศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตรออกหมายจับตัวการและผู้สนับสนุนให้เกิดคดีฉ้อโกงชาวนาและยักยอกทรัพย์ ข้าวเปลือก ข้าวสารขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อตก.)อีก 8 ราย  ได้แก่ 1. นายมุนินทร์  จันทรา” เสี่ยหนุ่ม” เจ้าของโรงสีแอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด  2. นางสาวณัฐริญา บุญเกื้อ กรรมการผู้จัดการโรงสีฯ 3.นายณัฐกิตติ์  อนันต์ชรินทร์ เจ้าหน้าที่ประจำโรงสีฯ 4.นายศุภโชค นาทีทอง หรือ “แบ๊งค์” 5.นายสมาน เอี่ยมนาม 6. นายอำพร ธูปชู 7. นายพงศธร กันสุข 8.น.ส.ทุเรียน จอมใจ หลังนายอำนาจ ดิษฐเสถียร เจ้าของท่าข้าวหัวดง ที่เป็นคนรับข้าวจากชาวนา จากนั้นให้การซัดทอดถึงผู้ร่วมขบวนการ ร่วมกับโรงสีแอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.โพทะเล จ.พิจิตร ก่อคดีฉ้อโกงชาวนาและยักยอกทรัพย์ข้าวเปลือกและข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวของ อ.ต.ก. ไปจำนวน 12,000 ตัน

พ.ต.อ.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า ทั้งหมดกำลังหลบหนี แต่ตอนนี้ตำรวจชุดสายสืบได้เบาะแสและรู้แล้วว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนอยู่ที่ไหนบ้าง คาดว่าภายในเร็ววันนี้ตำรวจคงจับกุมได้แน่นอน ซึ่งคดีดังกล่าวมีอายุความ 10 ปี   ส่วนของชาวนาพิจิตรได้ทำใบปลิวมีภาพ 3 ผู้ต้องหารายแรก แจกจ่ายกันไปทั่วว่า ถ้าผู้ใดพบเห็นขบวนการโกงชาวนาที่ถูกออกหมายจับกลุ่มนี้ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่จับกุมได้ทันที

ด้านนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.พิจิตร กล่าวว่า ได้เรียกประชุมคณะกรรมการข้าวระดับจังหวัดซึ่งประกอบด้วย การค้าภายใน พาณิชย์จังหวัด อ.ต.ก. และ อคส. รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องเกือบ 40 คน เพื่อถอดบทเรียนเหตุที่เกิดการโรงสีฉ้อโกงชาวนาและยักยอกทรัพย์ข้าวเปลือก ข้าวสาร ในโครงการรับจำนำข้าวของจังหวัดพิจิตร ซึ่งพบว่าต้นเหตุเกิดจากการเปิดให้มีจุดรับจำนำข้าวนอกโรงสี โดยท่าข้าวต่างๆที่เปิดขึ้นไม่เคยมีผู้ใดได้รับอนุญาต เนื่องจากต้องใช้เงินค้ำประกัน 50% ชาวนาต้องการความสะดวกโรงสีต้องการมีปริมาณข้าวมาเข้าจำนำในโรงสีเป็นจำนวนมากๆ ฝ่ายราชการก็โอนอ่อนผ่อนตาม สุดท้ายจึงเกิดเหตุท่าข้าวร่วมมือกับโรงสีโกงชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวดังกล่าว โดยในที่ประชุมสรุปว่าโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลนาปี56/57จะไม่ปล่อยให้เกิดเหตุประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขึ้นอีกอย่างเด็ดขาด