posttoday

อ้างชุดปส.ค้นบ้านเสี่ยฉกทองเฉียดร้อย

28 มิถุนายน 2556

กลุ่มชายฉกรรจ์อ้างชุด ปส.บุกค้นบ้านเสี่ยเขียงหมู-ไก่เมืองแปดริ้ว ฉกทองเฉียดร้อยบาท

กลุ่มชายฉกรรจ์อ้างชุด ปส.บุกค้นบ้านเสี่ยเขียงหมู-ไก่เมืองแปดริ้ว ฉกทองเฉียดร้อยบาท

พ.ต.อ.กษิภณ ศิริจันทร์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้างานสอบสวน สภ.บางปะกง ได้เชิญตัวคนในครอบครัวเจ้าของร้านขายเนื้อหมู เนื้อไก่ ทั้ง 4 คน ตลาดลาว ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งประกอบด้วย นายสมยศ หัวใจ  ผู้เป็นบิดาเสี่ยเจ้าของร้าน นางศิริอำพร หัวใจ มารดา และ น.ส.กมลชนก หัวใจ น้องสาว และนายศุภวิชญ์ หัวใจพี่ชาย มาทำการสอบสวน ทั้งนี้หลังจากเมื่อช่วงเช้ามืดคืนที่ผ่านมาได้มีกลุ่มคนร้ายซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ 5 คน ซึ่งแต่งกายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ ได้ตัดสลักกลอนประตูลูกบิดบ้านพัก ภายในหมู่บ้านบูรพา หลังตลาดบูรพา เลขที่ 1/1231 หมู่ 14 ต.บางวัว อ.บางปะกง บุกเข้าไปขอตรวจค้นภายในบ้าน โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปรามปรามยาเสพติด

นายศุภวิชญ์ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีเพียงเขาและน้องสาวอยู่ภายในบ้านแต่เพียงลำพัง 2 คน เนื่องจากบิดาและมารดา นั้นได้ออกจากบ้านไปขายเนื้อหมู และเนื้อไก่สด ยังที่ตลาดลาวซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 8 กม.แล้ว ตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา และจะกลับเข้าบ้านมาในตอนรุ่งเช้าเวลาประมาณ 08.00 น.

นายศุภวิชญ์ กล่าวอีกว่า หลังจากกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้ามา ได้ใช้อาวุธปืนซึ่งเห็นไม่ถนัดว่าเป็นปืนจริงหรือไม่ ข่มขู่ให้หมอบก้มลงกับพื้น ก่อนที่จะถูกคนร้ายใช้เทปกาวพันปิดตา และมัดมือมัดเท้าของตนไพร่หลังติดกันกับน้องสาวให้หันหลังชนกัน ด้วยสายโทรศัพท์และผ้าปลอกหมอนข้าง ก่อนที่คนร้ายจะพากันบุกเข้าค้นหาทรัพย์สินภายในบ้าน ปล้นชิงเอาทรัพย์สินมีค่าไป ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นทองคำที่มารดาเก็บซ่อนเอาไว้ภายในบ้านจำนวนถึงเกือบ 100 บาท ซึ่งไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด เพราะมารดาไม่เคยบอกถึงรายละเอียด และหยิบเอากระเป๋าใส่เงินของผู้เป็นบิดาติดมือไปด้วย ซึ่งยังไม่ทราบจำนวนเงินทั้งหมดเช่นกัน ก่อนที่คนร้ายจะพากันหลบหนีไป

นอกจากนี้หลังคนร้ายพากันหลบหนีไปแล้วเขาซึ่งได้แอบเอาโทรศัพท์มือถือที่ใช้อยู่ ซึ่งเป็นเครื่องขนาดเล็กซุกซ่อนยัดใส่ไว้ในกางเกงในก่อนที่คนร้ายจะลงมือมัดแขนขา ได้พยายามใช้แขนที่ถูกมัดไพร่หลังติดกับน้องสาว เอื้อมอ้อมมาที่ข้างเอวเพื่อหยิบโทรศัพท์ ก่อนที่จะกดโทรออกไปหายังมารดาของตนเอง ด้วยการเปิดลำโพงพูดคุยแจ้งเหตุให้ทราบ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยผู้ปกครองทั้งสองคนจึงได้เดินทางกลับมายังบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 04.00 น.ซึ่งเขาเองนั้นสามารถจดจำคนร้ายได้อย่างชัดเจนจำนวนหนึ่งคน เป็นชายลักษณะรูปร่างท้วม ผิวคล้ำ สวมเสื้อเจ็คเก็ตคลุมคล้ายตำรวจสีดำ ส่วนคนอื่นๆ จำไม่ได้เพราะถูกบังคับให้ก้มหน้าลงก่อนที่จะถูกมัดปิดตาไว้

ด้าน พ.ต.อ.วินัย จิตต์ปรุง รอง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ เป็นการก่อเหตุของคนร้ายทั่วไป ที่ไม่ใช่ตำรวจแน่นอน เพราะเดี๋ยวนี้เวลาลงมือก่อเหตุร้ายใครๆ ก็อ้างได้ว่าเป็นตำรวจ และไม่ได้มีใครใส่ชุดตำรวจมาด้วย โดยการก่อเหตุนั้นคนร้ายสวมใส่ถุงมือในการลงมือบุกเข้ารื้อค้นภายในบ้านของผู้เสียหาย จึงไม่พบลายนิ้วมือแฝง  ส่วนหลักฐานอื่นๆ ของคนร้ายนั้นยังต้องรอให้ตำรวจพื้นที่เขาทำงานก่อน โดยอาจจะติดตามภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อนำมาตรวจสอบ แต่เบื้องต้นทราบว่ากล้องวงจรปิดที่บริเวณหน้าประตูป้อมยามทางเข้าหมู่บ้านนั้นถูกฟ้าลง จึงยังต้องให้เจ้าหน้าที่ไปหาหลักฐานในจุดอื่นๆ มาประกอบ ขณะที่ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปนั้น ทราบว่าเป็นทองคำรูปพรรณจำนวนประมาณ 75 บาท พร้อมด้วยล็อกเก็ต เหรียญทองคำ กรอบพระแม่มาลี และพระเยซู อีกจำนวนหนึ่ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นของสะสมทั้งสร้อยคอทองคำ และแหวน รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท