รวบเนปาลขนแรงงานส่งประเทศที่3

ตำรวจจับหัวหน้าแก๊งชาวเนปาลลอบส่งแรงงานไปประเทศที่3 มูลค่าความเสียหายเกือบ3ล้านบาท
 
ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท. พ.ต.ท.เกื้อกมล ดวงประทีป รอง ผกก.3 บก.ทท. พ.ต.ท.บรรพต เดชมา รอง ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. และ พ.ต.ต.บวรภพ สุนทรเรขา สว.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท แถลงการจับกุมนายบิเบก เบนตะวา (Mr.Bibek bantawa) ชื่อหมายจับตามศาลอาญา ที่ 713/2555 ลงพฤษภาคม 2555 หรือ นายไคชอร์ ไร (Mr.Kishor Rai) ชื่อจริงตามหนังสือเดินทางประเทศเนปาล เลขที่ 4579293 สัญชาติเนปาล อายุ 32 ปี หัวหน้าแก๊งและเอเย่นต์ในประเทศไทยลักลอบส่งคนไปประเทศที่ 3 พร้อมของกลางสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 15 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 23 ใบ บัญชีรายชื่อลูกค้าชาวเนปาล พาสปอร์ต และโทรศัพท์มือถือ จับกุมได้ที่ พี.เอส.ที.คอนโดวิลล์ ทาวเวอร์ 2 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
         
พล.ต.ต.รอย กล่าวว่า เนื่องจากมีการร้องเรียนมายังสถานทูตเนปาลว่า มีคนประเทศเนปาลถูกหลอกหลวงและฉ้อโกงเงินไปหลายราย โดยมีนายพาวัน ภูรง อายุ 35 ปี สัญชาติเนปาลหนึ่งในผู้เสียหายถูกนายบิเบก เบนตะวา หลอกลวงฉ้อโกงเงินไปประมาณ 5.4 แสนบาท เพื่อตกลงจะทำธุรกิจเปิดบริษัทเกี่ยวกับทำอาหารในประเทศไทย แต่พบว่าถูกหลอกลวงเมื่อได้เงินกับพาสปอร์ตที่อ้างว่าจะนำไปลงทะเบียนให้แต่กลับเชิดเงินหลบหนี พร้อมปิดโทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อได้ นายพาวันจึงได้เดินทางมาแจ้งความไว้ที่สน.วังทองหลาง และศาลฯ ได้ออกหมายจับดังกล่าว ตรวจสอบพบว่า นายพาวันนั้นอดีตเคยเป็นตำรวจระดับรองสารวัตรที่ประเทศเนปาล แล้วไปพบปะกับนายบิเบิกที่เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน โดยนายบิเบิกอาศัยความเป็นคนชาติดเดียวกันมาตีสนิทพูดคุยชักชวนทำธุรกิจพร้อมพาเที่ยวในประเทศจีน จากนั้นเมื่อตกลงเปิดบริษัทฯ ได้ให้เงินไปเรียบร้อยและไม่สามารถติดต่อได้อีกก็พบว่าถูกโกงเสียแล้ว
         
พล.ต.ต.รอย กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติกรรมของนายบิเบก หัวหน้าแก๊งจะทำทีเปิดบริษัทจัดหางานในประเทศไทยโดยเป้าหมายจะเป็นชาวเนปาลที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเนปาล และกลุ่มแรงงานที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และมีผู้ร่วมขบวนการที่เป็นเอเย่นต์ในประเทศไทยอีกจำนวน 6 คน ได้แก่ 1.Mr.Abishek Limbu Kerung, (หลบหนีอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์) 2.Mr.Parsuram Gurung, 3.Mr.Suzsh Rai, 4.Mr.Bishal Rai, 5.Mr.Man Rai, 6.Mr.Rizan Rai และนายบิเบกมีหน้าที่คอยเดินทางเข้า-ออกภายในปะเทศไทยเพื่อส่งลูกค้าแรงงานให้กลุ่มเอเย่นต์ในประเทศไทย จะทำโดยวิธีการหลอกลวงชาวเนปาลด้วยกันเองว่าสามารถหางานในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนนาดา นอร์เวย์ มาเก๊า แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 1,080,000 บาท ซึ่งเมื่อถึงเวลาเดินทางกลับไม่สามารถเดินทางได้จริง ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความไว้ 3 ราย ที่ สน.วังทองหลาง สน.สุทธิสาร และสน.วังทองหลาง และร้องเรียนไปยังสถานฑูตเนปาล ประจำประเทศไทย รวม 9 รายแต่เดินทางกลับประเทศไปแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากเนปาลมาท่องเที่ยวในประเทศไทย บางคนทำงานเป็นพนักงานในโรงแรมขนาดใหญ่ในประเทศไทยด้วย และยังพบนายบิเบกใช้วีซ่าปลอมของประเทศแคนนาดาอีกด้วย
         
จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า น่าจะมีคนไทยร่วมอยู่ในขบวนการ และนายบิเบิกกระทำการดังกล่าวมาแล้วประมาณ 3 ปี มีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นเกือบ 3 ล้านบาท จะทำการหลอกลวงด้วยวิธีเดิมๆ พอได้เงินมาจะทำการเปลี่ยนพาสปอร์ตพร้อมเบอร์โทรศัพท์ไปเรื่อยเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม เบื้องต้นนายบิเบกได้ให้การปฎิเสธ ขณะแถลงข่าวได้ทำการข่มขู่ผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่สถานฑูตเนปาลประจำประเทศไทย ให้ถอนแจ้งความ โดยระบุว่าตนเป็นผู้มีอิทธิพลในเนปาล แต่ทางเจ้าหน้าที่สถานทูตไม่ยอมเพราะถือว่าผู้ต้องหาเป็นบุคคลอันตรายและเป็นภัยต่อชาวเนปาล ได้แจ้งข้อหา “เอาไปเสียซึ่งเอกสารและฉ้อโกง” ก่อนนำตัวส่ง สน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมจะทำการสืบสวนจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนีอีก 6 คน นอกจากนี้ตำรวจท่องเที่ยวยังได้ประสานไปยังทางการจีนและมาเลเซีย เนื่องจากพบว่าผู้ต้องหามีประวัติเดินทางเข้าออก ประเทศจีนและมาเลเซียบ่อยครั้ง