posttoday

อ้างศิษย์ปู่เณรคำชุดเก่ายักยอก100ล.-ปล่อยข่าวให้ร้าย

22 มิถุนายน 2556

ศิษย์หลวงปู่เณรคำเปิดศึกถล่มกันเอง แฉกลุ่มลูกศิษย์ชุดเก่ายักยอกเงินสร้างวิหาร100ล้านบาท งัดภาพเจ้าของที่ดินสร้างวัดยันได้รับบริจาคถูกต้อง แต่เมื่อถูกซักเรื่องเอกสารกลับตอบไม่ได้

ศิษย์หลวงปู่เณรคำเปิดศึกถล่มกันเอง แฉกลุ่มลูกศิษย์ชุดเก่ายักยอกเงินสร้างวิหาร100ล้านบาท งัดภาพเจ้าของที่ดินสร้างวัดยันได้รับบริจาคถูกต้อง แต่เมื่อถูกซักเรื่องเอกสารกลับตอบไม่ได้

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่สมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย ภายในหมู่บ้านบางใหญ่ซิตี้ ต.บางเสาธง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายสุขุม วงประสิทธิ นายวิชัย สุขอำภา ลูกศิษย์คนสนิท พระวีรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ พร้อมด้วยนายภาณุ สุขวัลลิ โฆษกพระวีรพล ได้เปิดแถลงกรณีเกิดกระแสข่าวที่เสียหายต่อพระวีรพล โดยมีลูกศิษย์พระวีรพลเดินมาร่วมฟังการแถลงราว 30 คน

นายสุขุม กล่าวว่า หลังจากที่ได้ตรวจสอบเอกสารย้อนหลังไป 2 ปีเกี่ยวกับการก่อสร้างพระวิหารมูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาทที่สำนักสงฆ์ ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ พบว่าลูกศิษย์พระวีรพลชุดเดิมมีการยักยอกเงินบริจาคที่ใช้ก่อสร้างไปนับ100ล้านบาท มีการทุจริตเป็นขบวนการไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อพระวีรพลทราบเรื่องก็เกิดความไม่สบายใจ จึงตัดสินใจปลีกวิเวกไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับใครเป็นเวลา 2 ปี กระทั่งศิษย์ชุดใหม่ที่นำโดย นายภัทรเดช โสพรรณพาณิชกุล เข้ามาตรวจสอบก็ได้ให้กำลังใจพระวีรพล และขอให้ก่อสร้างต่อไป กระทั่งพระวีรพลได้ขอให้ศิษย์ชุดเดิมยุติบทบาทการก่อสร้าง และให้ศิษย์ชุดใหม่เข้ามาดูแลแทน โดยตั้งบริษัทขันติธรรมก้าวหน้า จำกัด มาดูแล

"สำหรับยกตัวอย่างการทุจริต คือ มีการสั่งซื้อเหล็กจำนวน 10 ตัน แต่มีเหล็กที่มาส่งจริงๆ เพียงแค่ 5 ตัน หรือสั่งซื้อปูนมาราว 20 ตัน แต่มีปูนหายไป 13 ตัน และยังมีอีกเยอะมาก เมื่อหลวงปู่ทราบเรื่องก็ให้ยุติบทบาท เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์เป็นของประชาชนที่มีจิตศรัทธามาบริจาค ศิษย์ชุดเดิมจึงเกิดความไม่พอใจ และหนึ่งในศิษย์ชุดเดิมเป็นสื่อมวลชนในพื้นที่จ.ศรีสะเกษ ที่เป็นต้นตอปล่อยข่าวสร้างความเสียหายให้พระวีรพล"นายสุขุมกล่าว

ลงพื้นที่หาข้อมูลยื่นตำรวจตรวจสอบ

ด้านนายเริงศักดิ์ กำธร ทนายความที่ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลเรื่องกฎหมายของพระวีรพล กล่าวว่า เบื้องต้นเพิ่งเข้ามาทำงาน ยังไม่ปักใจเชื่อคำพูดทั้งของศิษย์ชุดปัจจุบัน และศิษย์ชุดเก่า แต่ทราบมาว่ามีการทุจริตยักยอกจริง ซึ่งจะลงพื้นที่เพื่อหาข้อเท็จจริงทั้งหมด และจะรวบรวมหลักฐานข้อมูลเสนอให้กับตำรวจกองบังคับการปราบปราม ตรวจสอบด้วย ว่ามีการทุจริตจริง

"ผมบอกได้เลยว่า หากไปตรวจแล้วพบว่ามีข้าราชการ หรือสื่อมวลชนเกี่ยวข้องด้วยจะต้องดำเนินคดี หากเป็นข้าราชการก็ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ หรือเป็นสื่อมวลชน สมาคมสื่อฯก็ต้องตรวจสอบด้วยเช่นกัน พวกนี้มันเล่นโคลน ดังนั้นก็ต้องรับโคลนที่เล่นกลับไปบ้าง"นายเริงศักดิ์ กล่าว

อ้างที่ดินได้รับบริจาคอย่างถูกต้อง

ขณะที่นายภาณุ ได้นำภาพถ่ายของนางทองมี วุฒิยาสาร ซี่งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินที่บริจาคให้กับพระวีรพลเพื่อใช้ก่อสร้างวัดป่าขันติธรรมมาแสดงต่อสื่อมวลชน พร้อมชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า ที่ดินนี้เป็นของนางทองมี ไม่ใช่ของนางลอน มนัส ที่ออกมาให้ข่าวว่าเป็นเจ้าของที่ดินและมอบให้กับพระวีรพล และจะขอที่ดินคืนเมื่อไม่มีการสร้างวัด ซึ่งไม่เป็นความจริง

ทั้งนี้นางทองมี ได้บริจาคที่ดินให้พระวีรพลเมื่อปี 2542 ก่อนที่จะเสียชีวิต แต่ให้นางลอน ซึ่งรู้จักกันเป็นผู้ดูแล แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องดูแลที่ดิน คำพูดที่ว่าดูแลหมายถึงดูแลพระวีรพลเท่านั้น และตนเห็นเอกสารมาแล้วว่ามีการมอบให้อย่างถูกต้อง

"ผมไม่รู้จักนางลอน และไม่ทราบว่าทำไมถึงมาอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดิน 15 ไร่ที่ตั้งวัดป่าขันติธรรม"นายภาณุกล่าว

นายภาณุ กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างขออนุญาตก่อสร้างวัดป่าขันติธรรม ซึ่งมาเกิดปัญหาติดขัดจากข่าวที่เกิดขึ้นทำให้มีการดำเนินการล่าช้า ซึ่งชื่อขณะนี้ต้องเรียกว่าสำนักสงฆ์ขันติธรรม

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ถามว่า เอกสารที่มีการมอบที่ดินให้ มีอะไรบ้าง แต่ นายภาณุ ไม่สามารถตอบได้ โดยอ้างว่าขอยกยอดไปตอบในโอกาสต่อไป

อ้างศิษย์ปู่เณรคำชุดเก่ายักยอก100ล.-ปล่อยข่าวให้ร้าย

โวลูกศิษย์รวยจะซื้อที่ดินเองก็ยังได้

ขณะที่ นายสุขุม กล่าวชี้แจงในเรื่องที่ดินว่า หากนางลอนไม่สบายใจว่าไม่มีการสร้างวัดก็ไม่เป็นไร แต่ยืนยันว่า พระวีรพลมีเจตนาจะก่อสร้างจริงๆ การที่หลวงปู่เข้าไปบุกเบิกสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม ถึงแม้จะยังไม่มีโบสถ์ก็ถือว่าเป็นวัดได้แล้ว อีกทั้งในประเทศไทยมีวัดร้างอีกนับหมื่นๆ แห่ง

"นางลอนสบายใจได้เลยว่าจะมีการสร้างวัดแน่นอน แต่ทั้งนี้เพื่อเป็นการจบปัญหา ลูกศิษย์หลวงปู่จะดำเนินการรวบรวมเงินบริจาคไปซื้อที่ดินตรงนั้นก็ได้ เท่าไหร่ก็ว่ามาเลย ลูกศิษย์มีเงินเยอะแยะ เช่าเครื่องบินเจ็ทให้หลวงปู่รับกิจนิมนต์ได้ นับประสาอะไรกับการไปซื้อที่ดินเพื่อให้หลวงปู่สบายใจ"นายสุขุม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมต้องซื้อที่ดินอีก ในเมื่อทางศิษย์อ้างว่ามีการมอบที่ดินอย่างถูกต้อง นายสุขุม ชี้แจงว่า เพื่อความสบายใจเท่านั้น เราไม่อยากมีปัญหากับใคร

ถามอีกว่า มีกระแสข่าวว่านางลอนถูกข่มขู่ภายหลังให้ข่าวว่าจะขอที่ดินคืน นางนฤดี พีระโรจน์ ศิษย์หลวงปู่เณรคำอีกคนหนึ่งที่ร่วมแถลงด้วย กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวนางลอนออกไป ตนเป็นคนเดินทางไปจ.ศรีสะเกษเพื่อพบกับนางลอน เนื่องจากรู้จักกันมานานกว่า 5 ปี และทราบว่านางลอนเป็นคนดูแลหลวงปู่อยู่ เพราะมีบ้านอยู่ใกล้กับสำนักสงฆ์ เมื่อเข้าไปสอบถาม นางลอนบอกว่า นักข่าวเขียนข่าวบิดเบือน นางลอนพูดแค่ว่าถ้าขอให้สร้างวัดให้เสร็จสมบูรณ์เท่านั้น แต่นางลอนไม่ต้องการออกมาแก้ข่าวแต่อย่างใด เพราะมีสุขภาพไม่อำนวย และไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับนักข่าว

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หลวงปู่เณรคำจะกลับมาจากประเทศฝรั่งเศสวันไหน ลูกศิษย์ทั้งหมดที่อ้างว่าใกล้ชิดได้แต่บอกว่าไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของหลวงปู่ที่ไม่อยากเข้าไปก้าวก่าย แต่ยืนยันว่าหลวงปู่จะมาร่วมงานฉลองพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่ากว่า 200 ล้านบาทแน่นอน ซึ่งงานจะจัดในวันที่ 27-30 มิ.ย.นี้

ด้าน นายสุขุม กล่าวทิ้งท้ายว่า พวกตนเป็นเพียงกลุ่มที่มีความศรัทธาในตัวหลวงปู่ และเห็นการถูกใส่ร้ายซึ่งไม่เป็นความจริงก็ทนไม่ได้ ต้องขอออกมาปกป้องหลวงปู่และพระพุทธศาสนา ส่วนลูกศิษย์ที่ทรพีอกตัญญูหลวงปู่ก็ขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเสีย เพราะมีแต่ความเสียหาย ขอให้ยึดทางธรรมเข้าข่มจิตใจ

ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว กลุ่มลูกศิษย์ทั้งหมดได้ช่วยกันแผ่เมตตาให้กับลูกศิษย์ชุดเดิม และขอให้หลวงปู่เณรคำผ่านพ้นวิกฤตแห่งความเสียหาย