จับเอเย่นต์ค้ากามสาวอายุ15

ปคม.รวบเอเย่นต์ค้ากามเด็กสาววัย 15 หลังหาเงินไปเสพยา

ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.จิรกฤต จารุนภัทร์ สว.กก.1 บก.ปคม.แถลงจับกุม น.ส.กฤษณีย์ หรือปู ไวเหลี่ยม อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 2 ต.ทุ่งกว๋าว อ.เมืองปาน จ.ลำปาง และ น.ส.จรีรัตน์ หรือจุก นันชัย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/7 ซอยพหลโยธิน 51 หมู่ 6 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1069 และ 1070/2556 ลงวันที่ 17 มิ.ย. 2556 ตามลำดับ ข้อหาสบคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป กระทำผิดฐานค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี , ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ชักพาไป หน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือรับไว้ซึ่งบุคคลอายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี โดยบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม น.ส.กฤษณีย์ ได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาสะพานใหม่ ขณะที่ น.ส.จรีรัตน์ จับกุมตัวได้ที่หน้าสำนักงานเขตหลักสี่ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายก้อง (นามสมมติ) บิดาของผู้เสียหาย คือ น.ส.จิ๋ว (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ว่า น.ส.จิ๋ว หายตัวไปจากบ้านพักเป็นเวลากว่า 4 เดือน และเพิ่งได้รับการติดต่อว่า อยากจะกลับบ้านแต่ถูกกักตัวไว้ จึงเกรงว่าบุตรสาวจะได้รับอันตราย จึงอยากให้ตำรวจช่วยติดตามหาบุตรสาว ต่อมาชุดสืบสวน กก.1 บก.ปคม.ได้วางแผนสืบสวนติดตาม ก่อนจะสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายได้ที่บริเวณวัดเกาะ เขตสายไหม หลังจากถูกกลุ่มผู้ต้องหานำตัวมาทิ้งไว้

พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวต่อว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ น.ส.จิ๋ว ผู้เสียหาย ทราบว่า มีเพื่อนชักชวนให้เสพยาเสพติด และพาไปอาศัยอยู่ด้วยที่บ้านพักในซอยพหลโยธิน 51 จากนั้นจึงพบกับผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งเป็นเอเย่นต์ติดต่อลูกค้าให้ไปค้าประเวณี เพื่อหาเงินมาเสพยา โดยคิดเงินค่าบริการครั้งละ 1,500-2,000 บาท ครั้งแรกๆ ก็ให้เงินส่วนแบ่ง 1,000 บาท แต่ภายหลังกลับได้รับเงินเพียง 300-400 บาท โดยระหว่างนั้นก็จะถูกกักตัวไม่ยอมให้ไปไหน

กระทั่งต่อมา น.ส.จิ๋ว สบโอกาสจึงหลบหนีออกมา แต่ก็ถูกผู้ต้องหาตามตัวจนพบและนำตัวกลับมา และเมื่อทราบว่ามีตำรวจมาตามตัวถึงพาผู้เสียหายไปทิ้งไว้ที่บริเวณวัดเกาะ ต่อมาพนักงานสอบสวน บก.ปคม.จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้ดังกล่าว อย่างไรก็ดี ตามแนวทางการสืบสวนพบว่ายังมีผู้ร่วมกระทำความผิดอีกราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อไป

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ โดย น.ส.จรีรัตน์ ระบุว่า มีอาชีพขายผลไม้ อยู่ที่หน้าสำนักงานเขตหลักสี่ ที่ผ่านมา หลานสาวเป็นคนพาผู้เสียหายไปอยู่ด้วย โดยไม่ทราบเรื่องและไม่เคยบังคับให้ค้าประเวณีแต่อย่างใด เพิ่งพบผู้เสียหายแค่ 2-3 ครั้ง หลังจากหลานสาวพามาแนะนำตัว นอกจากนี้ก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านพักก็ไม่รู้ว่าเขาไปพบหรือติดต่อกับใคร จึงอยากขอความเป็นธรรม ซึ่งคดีนี้ยืนยันว่าจะขอให้การเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาล ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้คุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดี