ดีเอสไอระดมช่างเทคนิค 10 บริษัทนำเข้ารถยนต์หรู
ดีเอสไอวางแผนตรวจสอบรถต้องสงสัยจดประกอบล็อตแรก 24 มิ.ย ตัวแทนเฟอรารี่ชี้หากรถนำเข้าทั้งคัน ตัวเลขถังรถยนต์ต้องตำแหน่งเดิม
ดีเอสไอวางแผนตรวจสอบรถต้องสงสัยจดประกอบล็อตแรก 24 มิ.ย ตัวแทนเฟอรารี่ชี้หากรถนำเข้าทั้งคัน ตัวเลขถังรถยนต์ต้องตำแหน่งเดิม
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยผลการประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งช่างเทคนิคของรถยนต์หรูยี่ห้อต่าง 10 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท วัฒนา ออโต้ เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด , บริษัท นิชคาร์ จำกัด , บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ,บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ,บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ,บริษัท โรลส์ – รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด ,บริษัท ซิตี้ ออโต้ โมบิล จำกัด และ บริษัทเมอร์เซเดส – เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อวางแผนการตรวจสอบสภาพการนำชิ้นส่วน รถยนต์มาจดประกอบ โดยที่ประชุมมีมติ 2 ประเด็น คือ 1.การตรวจสอบกายภาพจะคู่ขนานกับการตรวจสอบความสมบูรณ์ของเอกสาร เพื่อเช็คที่มาของชิ้นส่วนที่นำมาจดประกอบในประเทศไทย ขั้นตอนการจดประกอบ การผ่านมาตรฐานสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) การจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบอก การโอนรถ จนมาถึงมือผู้ครอบครองคนสุดท้าย
“ดีเอสไอจะร่วมกับสมอ.และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อีกประเด็นที่มีความเป็นห่วงคือผู้ครอบครองรถทั้งแบบสมัครใจเข้าตรวจสอบเองและไม่สมัครใจ ดีเอสไอยืนยันว่าเบื้องต้นผู้ครอบครองถือเป็นผู้เสียหายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ยกเว้นกรณีที่ผลการตรวจสอบพบว่ามีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีจะต้องถูกดำเนินคดี โดยในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ในเวลาราชการดีเอสไอจะเปิดให้ผู้ครอบครองรถแบบสมัครใจติดต่อขอนัดเวลานำรถเข้าตรวจสอบ”นายธาริต กล่าว
นายธาริต กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ติดต่อเข้านัดเวลาตรวจสอบรถต้องเป็นเจ้าของรถ ผู้ครอบครองหรือผู้รับมอบอำนาจ โดยต้องแสดงหลักฐานสำคัญอาทิ สมุดคู่มือการจดทะเบียนรถหรือหลักฐานการครอบครองรถ และบัตรประชาชน ซึ่งล็อตแรกที่ดีเอสไอตรวจสอบจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. ทั้งนี้ บริษัท เมอร์เซเดสฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลไปยังบริษัทแม่ที่ประเทศเยอรมันแล้วว่ารถยนต์ที่นำเข้าโดยถูกต้องในประเทศไทยมีกี่คัน เพื่อจะได้ทำการคัดกรองให้ถูกต้องหลังจากนี้จะต้องตรวจสอบเลขเครื่องยนต์ที่ปรากฎอยู่ในรายการรถที่แจ้งจดประกอบว่ามีขั้นตอนการนำเข้าอย่างไร ผู้นำเข้าเป็นใคร แจ้งเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากการตรวจทางเทคนิคจะทำให้เกิดความชัดเจนว่าเป็นรถที่นำเข้ามาทั้งคันหรือแยกชิ้นส่วนมาประกอบ ซึ่งการตรวจสอบสามารถทราบผลที่ชัดเจนทั้งเลขเครื่องยนต์และเลขอะไหล่ที่เป็นซีรี่ย์เดียวกัน การประกอบสายไฟ หัวน๊อต และอุปกรณ์สำคัญที่เป็นเทคนิคพิเศษของแต่ละยี่ห้อ
ด้านนายวรส ธรรมวิวัฒน์ ตัวแทนบริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เฟอร์รารี่ กล่าวว่า การตรวจสอบจะเน้นการพิสูจน์เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์และเลขเกียร์ หากตรงกันก็ถือเป็นรถที่นำเข้าทั้งคัน ไม่ใช่รถที่นำเข้าชิ้นส่วนมาจดประกอบ ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงการใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงนั้นสามารถใช้ได้ แต่จะมีการติดตั้งจริงหรือไม่นั้นก็ต้องมีการตรวจสอบ
“การตรวจสอบว่าเป็นรถจดประกอบหรือไม่นั้น ไม่ยาก หากเป็นรถนำเข้าทั้งคัน ตัวเลขถังรถยนต์จะอยู่ในตำแหน่งเดิมตลอด ยกเว้นเกียร์หรือเครื่องที่สามารถเปลี่ยนแปลงตำแหน่งได้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่รถประสบอุบัติเหตุแล้วจะมีการสั่งชิ้นส่วนจดประกอบจากต่างประเทศ เข้ามาเปลี่ยนนั้น หากเป็นบริษัทตนจะแนะนำให้มีการส่งไปซ่อมที่ฮ่องกง เนื่องจากมีโรงงานและระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการซ่อมเครื่องยนต์ที่มีความเร็วสูง”ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เฟอร์รารี่ กล่าว
นายวรส กล่าวอีกว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้วบริษัทฯได้มีการนำเข้ารถต่างประเทศ โดยจดทะเบียนในชื่อวบริษัท เฟอร์ม่า มอเตอร์ แต่ได้ปิดตัวไป และต่อมาได้เปิดตัวใหม่ในชื่อบริษัท คาวาลลิโน เพื่อจัดจำหน่ายรถเฟอร์รารี่ ซึ่งมียอดขายประมาณ 20-30 คัน ต่อปี โดยรถจะมีราคาตั้งแต่ 20-31 ล้านบาทขึ้นไป โดยบริษัทฯได้เสียภาษีในอัตราสูงสุดถึง 328 เปอร์เซ็นต์