posttoday

ตร.ยันผู้ต้องหาฆ่าเอกยุทธมีเจตนาหนี

13 มิถุนายน 2556

รองผบ.ตร.แจงจับผู้ต้องหาฆ่าเอกยุทธขณะหนีไม่มีเจตนามอบตัว สั่งขยายผลสอบหาแรงจูงใจลงมือ แต่ยังมุ่งปมชิงทรัพย์ พร้อมนัดคุยกับญาติ

รองผบ.ตร.แจงจับผู้ต้องหาฆ่าเอกยุทธขณะหนีไม่มีเจตนามอบตัว สั่งขยายผลสอบหาแรงจูงใจลงมือ แต่ยังมุ่งปมชิงทรัพย์ พร้อมนัดคุยกับญาติ

พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตร รองผบ.ตร. กล่าวภายหลังการประชุมคลี่คลายคดีฆาตกรรมนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังว่า คดีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาดูแลคดี เพราะเหตุเกิดคาบเกี่ยวกันหลายท้องที่ เริ่มจากมีการวางแผนจับตัวนายเอกยุทธ ข่มขู่ กักขังหน่วงเหนี่ยวไว้

นอกจากนี้ ยังมีการขู่บังคับให้เซ็นเช็คและได้เงินไปจำนวน 5 ล้านบาท จากนั้นจึงลงมือฆ่าและนำศพไปฝังซ่อนเร้นอำพรางที่จ.พัทลุง รวมถึงมีการสืบสวนไปตรวจค้นเงินของกลางที่คนร้ายได้ไปและไปพบที่จ.สงขลา

ในการสอบสวนได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมา ประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นหน่วยหลัก (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.ภ.9) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เบื้องต้นแบ่งมอบคดีกันทำงานแล้ว โดยเหตุที่คนร้ายก่อไว้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บช.น.จะรับผิดชอบ ส่วนศพที่พบในจ.พัทลุง และเงินของกลางที่พบ บช.ภ.9 รับผิดชอบ ส่วนบก.ป.จะรับผิดชอบเรื่องแรงจูงใจที่ผู้ต้องหากระทำความผิด ซึ่งจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ความเกี่ยวข้องของกลุ่มผู้ต้องหา รวมถึงเรื่องการเงินของผู้ต้องหาด้วย

พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวต่อไปว่า การสอบสวนถึงขณะนี้มีการแจ้งข้อหาผู้กระทำผิดในคดีแล้ว คือ 3 คนที่ร่วมก่อเหตุวางแผนจับตัวและฆ่ารวมถึงนำศพไปฝัง และอีก 1 คนที่หลบหนีอยู่และออกหมายจับไปแล้ว รวมถึงพ่อและแม่ของนายสันติภาพที่รับเงินไปเก็บไว้

สำหรับแนวทางต่อไปก็จะสอบสวนและหากพบว่ามีการเชื่อมโยงถึงผู้ใด ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีทันที ส่วนตัวผู้ต้องหาคือนายสันติภาพนั้น ภายหลังจากการประชุมเสร็จจะมีการนำตัวไปชี้จุดที่ลงมือก่อเหตุต่อไป และจะเน้นในจุดที่นายเอกยุทธกระโดดลงจากรถเพื่อหลบหนีก่อนถูกจับตัวอีกครั้ง และสั่งการให้ทำโดยละเอียด

แจ้งเพิ่มข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ประเด็นการก่อเหตุยังคงเป็นเรื่องฆ่าชิงทรัพย์ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า จากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ทั้งหมดยังเป็นประเด็นประสงค์ต่อทรัพย์อยู่ แต่ได้มอบให้บก.ป.ไปตรวจสอบเรื่องแรงจูงใจ และหาข้อมูลในประเด็นต่างๆ เพื่อหาสาเหตุการลงมือ และจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์กันอีกครั้ง

ถามว่า เหตุใดนายสันติภาพเมื่อได้เงินมาแล้วจึงไม่แบ่งให้นายเบิ้มทันที พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้อยู่ในสำนวนการสอบสวน คงไม่สามารถจะเปิดเผยได้ อีกทั้งยังต้องมีการสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติมด้วย และต้องรีบทำเพราะในวันที่ 14 มิ.ย.จะต้องนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาที่จับกุมได้นั้นได้สั่งการให้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาเพิ่มเติมด้วย

ยืนยันจับผู้ต้องหาขณะกำลังหนี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนประเด็นการสอบสวนที่ต้องสอบเพิ่มเติมมีจุดใดบ้าง พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า เรื่องของพยานบุคคลในจุดต่างๆ ที่นายเอกยุทธเดินทางตั้งแต่วันเกิดเหตุ โดยเฉพาะร้านอาหารกระแตย่านสะพานควาย รวมถึงเส้นทางต่างๆ ที่คนร้ายนำนายเอกยุทธมากักขังไว้ รวมถึงต้องไล่รายละเอียดตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.เป็นต้นมา ถึงวันที่นำศพไปฝัง ต้องมีพยานบุคคลรองรับกับเหตุการณ์ รวมถึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์ กล้องซีซีทีวี และดีเอ็นเอที่ต้องตรวจสอบ สิ่งทั้งหมดจะมารวบในสำนวนการสอบสวน

ถามว่า ทำไมหลังก่อเหตุที่นำศพไปฝังแล้ว ผู้ต้องหาไม่หลบหนี แต่ย้อนกลับมาเส้นทางเดิม พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า เรื่องนี้ผู้ต้องหากำลังหลบหนี แต่ตำรวจเป็นฝ่ายไปจับกุมผู้ต้องหาได้เอง และผู้ต้องหาก็ไม่มีเจตนาจะเข้ามามอบตัวด้วย อย่างไรก็ตาม จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมจากตัวนายสันติภาพอีกครั้ง

พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า เรื่องทุกอย่างที่ปรากฎออกมา หากผู้ใดที่ข้อมูลหรือมีเบาะแสต่างๆ เกี่ยวกับคดีนายเอกยุทธที่พนักงานสอบสวนควรจะทราบ ก็สามารถแจ้งมาได้ แต่ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะต้องทำคดีไปตามความเป็นจริง ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า ญาติของนายเอกยุทธติดใจในเรื่องการสอบสวนของตำรวจหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ที่อยู่ด้วย ขอตอบเองว่า จะมีการประสานนัดคุยกันเร็วๆ นี้รวมถึงทนายของนายเอกยุทธด้วย อีกทั้งขณะนี้ทางญาติกำลังทำธุระเกี่ยวกับศพของนายเอกยุทธอยู่ จึงยังไม่สะดวกที่จะพูดคุย