ประเมินรัฐสูญ2หมื่นล้านรถหรูเลี่ยงภาษี
ดีเอสไอประเมินรัฐเสียหาย 2 หมื่นล้านจากรถหรูเลี่ยงภาษี จ่อเรียกสอบเจ้าของรถ 8 พันคัน ชี้เหตุนำรถจดทะเบียนต่างจังหวัดหวังล้างเล่มทำลายหลักฐานเก่า
ดีเอสไอประเมินรัฐเสียหาย 2 หมื่นล้านจากรถหรูเลี่ยงภาษี จ่อเรียกสอบเจ้าของรถ 8 พันคัน ชี้เหตุนำรถจดทะเบียนต่างจังหวัดหวังล้างเล่มทำลายหลักฐานเก่า
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีรถหรูที่เกิดเหตุไฟไหม้ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาว่า ในวันที่ 6 มิ.ย.เวลา 17.00 น. จะมีการสอบปากคำ พ.ต.สุขชาติ สะสมทรัพย์ บุตรชายนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน ได้ขอเลื่อนการเข้าให้ข้อมูลเป็นวันนี้แทนจากเดิมที่นัดให้ข้อมูลในวันที่ 7 มิ.ย. เนื่องจากพ.ต.สุขชาต ติดภารกิจต่างจังหวัด
ทั้งนี้การเรียกเข้ามาเพื่อให้ชี้แจงเหตุที่เคยครอบครองทะเบียนรถ 1 ในคันที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งดีเอสไอจะนำคำให้การมาประกอบกับพยานหลักฐาน หากผิดก็ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง นอกจากนี้ในวันที่ 7 มิ.ย. ดีเอสไอขออนุมัติศาลค้นสถานที่ 4 แห่งที่ระบุว่าใช้เป็นที่จดประกอบรถหรู ทั้งที่ข้อมูลจากการสืบสวนไม่พบว่าสถานที่เหล่านี้น่าจะเป็นสถานที่มีศักยภาพพอในการประกอบรถหรูราคาแพงได้ โดยคาดว่าจะได้พยานเอกสารสำคัญหลายอย่าง
สำหรับความเสียหายจากการเลี่ยงภาษีของรถหรูนั้น หากเป็นการนำเข้าปกติจะเสียภาษีตั้งแต่ 200-314% แต่เมื่อหลีกเลี่ยงจะเสียภาษีเพียง 30-50% เท่านั้น ซึ่งรถหรูที่เลี่ยงภาษีกว่า 5,834 คัน และที่อยู่ระหว่างรอจดทะเบียนอีก 3,000 คันรวมเป็นกว่า 8,000 คัน ดีเอสไอมีข้อมูลว่ารถหรู 6 คัน ที่เกิดเหตุที่ อ.ปากช่อง อยู่ในบัญชีของกลุ่มรถหรูที่อยู่ระหว่างรอการจดทะเบียน เบื้องต้นดีเอสไอประเมินความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ในวันที่ 7 มิ.ย. จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างดีเอสไอ กรมการขนส่งทาง กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ประชุมวางแผนการทำงานร่วมกัน สำหรับเส้นทางของรถจดประกอบรูปแบบที่ถูกต้องนำเข้าตัวถังเก่า ชิ้นส่วนเก่ามาประกอบเป็นรถยนต์และจะต้องมีวิศวกรรับรองความมั่นคงและสมรรถนะจากนั้นนำไปชำรุภาษีสรรพสามิต หากเป็นรถที่ใช้เชื้อเพลิงหลักต้องผ่านการตรวจสอบของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (สมอ.) ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนทางเทคนิคอย่างละเอียด จึงมักมีการเลี่ยงไปติดก๊าซแทนเพื่อไม่ต้องผ่านสมอ. โดยจะผ่านการตรวจจากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น
นายธาริต กล่าวว่า จากการตรวจสอบของดีเอสไอพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีโรงงานที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงในการประกอบรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ ดังนั้นรถซุปเปอร์คาร์ที่ขอจดทะเบียนเป็นรถจดประกอบ จึงนำเข้ามาทั้งคันโดยมีเอกสารระบุเป็นการจดประกอบเท่านั้นหรือเรียกว่า มีเพียงกระดาษจดประกอบจากกระบวนการกำมะลอ ทำหลักฐานขึ้นหลอกลวง ส่วนเหตุผลที่มีนิยมนำรถไปจดทะเบียนที่ต่างจังหวัดจำนวน 21 จังหวัด ก็เพื่อต้องการล้างเล่ม เพราะเมื่อจดทะเบียนได้แล้วจะโอนเล่มเข้าทะเบียนในกรุงเทพฯเพื่อไม่ให้มีหลักฐานเก่าว่าเป็นรถที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง
นายธาริต กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ดีเอสไอวางแผนเข้าดำเนินการแบ่งเป็น 3 ล็อต กลุ่มแรกคือทำผิด 100% และรถยังอยู่กับผู้ประกอบการดีเอสไอจะบุกเข้าค้นและยึดรถของกลาง กลุ่มที่ 2 เป็นผู้ครอบครองรถจดประกอบที่ผ่านขั้นตอนถูกต้องซึ่งจำนวนนี้เชื่อว่ามีประมาณ 15% แนะนำให้เข้าแสดงตัวเข้าพบพนักงานสอบสวนและกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มรอลุ้นยังแอบใช้รถจดประกอบที่เลียงภาษีดีเอสไอจะเรียกตรวจสอบเป็นรายคันจนครบ หากอ้างว่าเป็นรถจดประกอบแล้วไม่มีร่องรอยการถอดหรือขันน๊อตเครื่องยนต์ ก็จะถูกยึดรถทันที นี่จึงถือเป็นทุกข์อย่างหนึ่งของคนรวยที่ต้องถูกยึดรถหรูให้ตกเป็นของแผ่นดิน