posttoday

ประเมินรัฐสูญ2หมื่นล้านรถหรูเลี่ยงภาษี

05 มิถุนายน 2556

ดีเอสไอประเมินรัฐเสียหาย 2 หมื่นล้านจากรถหรูเลี่ยงภาษี จ่อเรียกสอบเจ้าของรถ 8 พันคัน ชี้เหตุนำรถจดทะเบียนต่างจังหวัดหวังล้างเล่มทำลายหลักฐานเก่า

ดีเอสไอประเมินรัฐเสียหาย 2 หมื่นล้านจากรถหรูเลี่ยงภาษี จ่อเรียกสอบเจ้าของรถ 8 พันคัน ชี้เหตุนำรถจดทะเบียนต่างจังหวัดหวังล้างเล่มทำลายหลักฐานเก่า

นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีรถหรูที่เกิดเหตุไฟไหม้ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาว่า ในวันที่ 6 มิ.ย.เวลา 17.00 น. จะมีการสอบปากคำ พ.ต.สุขชาติ  สะสมทรัพย์  บุตรชายนายเผดิมชัย  สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน   ได้ขอเลื่อนการเข้าให้ข้อมูลเป็นวันนี้แทนจากเดิมที่นัดให้ข้อมูลในวันที่ 7 มิ.ย. เนื่องจากพ.ต.สุขชาต  ติดภารกิจต่างจังหวัด 

ทั้งนี้การเรียกเข้ามาเพื่อให้ชี้แจงเหตุที่เคยครอบครองทะเบียนรถ  1 ในคันที่อยู่ในที่เกิดเหตุ  ซึ่งดีเอสไอจะนำคำให้การมาประกอบกับพยานหลักฐาน หากผิดก็ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง  นอกจากนี้ในวันที่ 7 มิ.ย. ดีเอสไอขออนุมัติศาลค้นสถานที่ 4 แห่งที่ระบุว่าใช้เป็นที่จดประกอบรถหรู  ทั้งที่ข้อมูลจากการสืบสวนไม่พบว่าสถานที่เหล่านี้น่าจะเป็นสถานที่มีศักยภาพพอในการประกอบรถหรูราคาแพงได้  โดยคาดว่าจะได้พยานเอกสารสำคัญหลายอย่าง 

สำหรับความเสียหายจากการเลี่ยงภาษีของรถหรูนั้น หากเป็นการนำเข้าปกติจะเสียภาษีตั้งแต่ 200-314%  แต่เมื่อหลีกเลี่ยงจะเสียภาษีเพียง 30-50% เท่านั้น ซึ่งรถหรูที่เลี่ยงภาษีกว่า 5,834 คัน และที่อยู่ระหว่างรอจดทะเบียนอีก 3,000 คันรวมเป็นกว่า 8,000 คัน  ดีเอสไอมีข้อมูลว่ารถหรู  6 คัน ที่เกิดเหตุที่ อ.ปากช่อง  อยู่ในบัญชีของกลุ่มรถหรูที่อยู่ระหว่างรอการจดทะเบียน  เบื้องต้นดีเอสไอประเมินความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท 

ทั้งนี้ในวันที่ 7 มิ.ย. จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างดีเอสไอ  กรมการขนส่งทาง กรมสรรพสามิต  กรมศุลกากร และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ประชุมวางแผนการทำงานร่วมกัน  สำหรับเส้นทางของรถจดประกอบรูปแบบที่ถูกต้องนำเข้าตัวถังเก่า ชิ้นส่วนเก่ามาประกอบเป็นรถยนต์และจะต้องมีวิศวกรรับรองความมั่นคงและสมรรถนะจากนั้นนำไปชำรุภาษีสรรพสามิต  หากเป็นรถที่ใช้เชื้อเพลิงหลักต้องผ่านการตรวจสอบของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (สมอ.) ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนทางเทคนิคอย่างละเอียด  จึงมักมีการเลี่ยงไปติดก๊าซแทนเพื่อไม่ต้องผ่านสมอ.  โดยจะผ่านการตรวจจากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น

นายธาริต กล่าวว่า จากการตรวจสอบของดีเอสไอพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีโรงงานที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงในการประกอบรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ ดังนั้นรถซุปเปอร์คาร์ที่ขอจดทะเบียนเป็นรถจดประกอบ  จึงนำเข้ามาทั้งคันโดยมีเอกสารระบุเป็นการจดประกอบเท่านั้นหรือเรียกว่า  มีเพียงกระดาษจดประกอบจากกระบวนการกำมะลอ  ทำหลักฐานขึ้นหลอกลวง ส่วนเหตุผลที่มีนิยมนำรถไปจดทะเบียนที่ต่างจังหวัดจำนวน 21 จังหวัด ก็เพื่อต้องการล้างเล่ม  เพราะเมื่อจดทะเบียนได้แล้วจะโอนเล่มเข้าทะเบียนในกรุงเทพฯเพื่อไม่ให้มีหลักฐานเก่าว่าเป็นรถที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง 

นายธาริต กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ดีเอสไอวางแผนเข้าดำเนินการแบ่งเป็น 3 ล็อต  กลุ่มแรกคือทำผิด 100% และรถยังอยู่กับผู้ประกอบการดีเอสไอจะบุกเข้าค้นและยึดรถของกลาง กลุ่มที่ 2 เป็นผู้ครอบครองรถจดประกอบที่ผ่านขั้นตอนถูกต้องซึ่งจำนวนนี้เชื่อว่ามีประมาณ 15% แนะนำให้เข้าแสดงตัวเข้าพบพนักงานสอบสวนและกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มรอลุ้นยังแอบใช้รถจดประกอบที่เลียงภาษีดีเอสไอจะเรียกตรวจสอบเป็นรายคันจนครบ  หากอ้างว่าเป็นรถจดประกอบแล้วไม่มีร่องรอยการถอดหรือขันน๊อตเครื่องยนต์ ก็จะถูกยึดรถทันที  นี่จึงถือเป็นทุกข์อย่างหนึ่งของคนรวยที่ต้องถูกยึดรถหรูให้ตกเป็นของแผ่นดิน