DSIเรียกลูก"เผดิมชัย"สอบปมรถหรู

ดีเอสไอเรียกสอบปากคำ "สุขชาติ สะสมทรัพย์" 6 มิ.ย. แต่ยังไม่ชี้ผิดหรือไม่ พร้อมนัด 3 หน่วยงานร่วมสอบรถหรูเลี่ยงภาษี 5 พันคันแบ่งกลุ่มสอบ 3ล็อต

นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบการตรวจสอบคดีรถหรูเกิดเพลิงไหม้ที่ปากช่อง จ.นครราชสีมาว่า  ในวันนี้ (5 มิ.ย.) ดีเอสไอจะออกหนังสือเรียก พ.ต.สุขชาต สะสมทรัพย์   ที่ปรากฏหลักฐานเบื้องต้นว่าเคยครอบครองทะเบียนรถ 1 ในคันที่เกิดเหตุ  โดยนัดให้เข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 6 มิ.ย. เวลา 14.00 น.

"การเรียกเข้าพบครั้งนี้ยังไม่ได้เป็นชี้ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด"นายธาริตกล่าว

นายธาริตกล่าวอีกว่า ดีเอสไอจะประชุมร่วมกับผู้แทนที่รับผิดชอบโดยตรงอีก 3 หน่วยงาน คือ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต   เพื่อร่วมกันตรวจสอบรถหรูเป้าหมายที่ต้องสงสัยเลี่ยงภาษี  5,832 คัน 

คณะทำงานชุดนี้จะร่วมกันตรวจสอบรถหรูแบ่งเป็น 3 ล็อต  ล็อตแรกตรวจในกลุ่มรถเป้าหมายที่มีหลักฐานว่ากระทำผิดด้วยการเลี่ยงภาษีแน่นอน  ล็อตที่ 2 เปิดให้ผู้ครองครองรถหรู ที่สมัครใจ นำรถที่ไม่แน่ใจ เข้ามาให้ดีเอสไอตรวจสอบเอง  ซึ่งดีเอสไอจะจัดคิวเรียกมาตรวจสอบ  และจะตรวจสอบทั้งเอกสารและด้านกายภาพรถว่ารถดังกล่าวมีสภาพเคยถูกถอดชิ้นส่วนหรือไม่  เช่น การถอดน็อตได้ซึ่งแสดงถึงการจดประกอบในไทย หรือปรากฏว่าตรวจแล้วไม่เคยถอดน็อตเลย  สันนิษฐานว่าน่าจะนำเข้ามาทั้งคัน

อย่างไรก็ตามวันนี้ดีเอสไอจะดำเนินการขอศาลอนุมัติหมายค้นโกดังเก็บรถหรูต้องสงสัยหลายจุด

ก่อนหน้านี้ พ.ต.สุขชาต ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกไม่สบายใจกับการดำเนินคดีการลักลอบนำเข้ารถหรู เพราะได้ทำให้ครอบครัวสะสมทรัพย์กลายเป็นจำเลยสังคมไปแล้ว ทั้งที่ซื้อรถมาถูกต้อง มีเล่มทะเบียนถูกต้อง และรถที่เป็นเจ้าของก็เป็นคนละรุ่นกับแลมโบร์กินีคันที่ถูกไฟไหม้

“ไม่รู้ไปตีขลุมว่าเป็นรถผมได้ยังไง อย่างน้อยก็ควรมาถามผมก่อน ทำไมการนำเสนอข่าวมาหยุดที่ผม ทั้งๆ ทะเบียนรถผมจดตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 2553 จากนั้นได้ไปซื้อรถต่อจากเจ้าของเดิมโดยมีทะเบียนดังกล่าวติดมาด้วย” นายสุขชาต กล่าว

พ.ต.สุขชาต กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นได้คืนทะเบียนให้กับกรมการขนส่งทางบกและขอทะเบียนใหม่มาใช้แทนในเดือน พ.ย. 2555 ดังนั้นเมื่อทะเบียนกลับไปอยู่กับกรมการขนส่งทางบกก็ต้องไปดูว่าทะเบียนดังกล่าวใครปล่อยออกมา

“พ่อผมท่านไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย แต่ต้องมากลายเป็นจำเลยสังคม ถูกนำไปโยงกับประเด็นการเมือง ถ้าหากดีเอสไอจะเชิญไปให้ข้อมูลผมก็ยินดี เพราะผมบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว” นายสุขชาต กล่าว