จ่อออกหมายจับมือยิงหลานเต๋าสมชาย

บช.น. เผยคืบหน้ายิงหลานเต๋า-สมชาย ตรวจวงจรปิดพบคนร้าย 2 คน ชี้ขอรวบรวมหลักฐานก่อนออกหมายจับ

พ.ต.ท.สถิตย์ สังข์ประไพ รองผกก.สส.สน.สายไหม  เปิดเผยความคืบหน้าคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มารอดักยิง นายศตวรรษ จำนงภักดิ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาช่างไฟฟ้ากำลัง ปี 3 โรงเรียนช่างอุตสาหกรรม กรุงเทพฯ หลานชายนายสมชาย หรือเต๋า เข็มกลัด ดารานักแสดง เสียชีวิตภายในตลาดวงศกร แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.ว่าเบื้องต้นพบว่าผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนปากกาขนาด .22 จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าในตลาดวงศกรมีทั้งหมด 16 ตัว จับภาพคนร้ายได้ 3 ตัว คือบริเวณทางเข้า ทางออกของตลาด และถนนหน้าตลาด จับภาพกลุ่มคนร้ายว่ามาด้วยกัน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์คนละคัน

ภาพในกล้องวงจรปิดพบว่าคนยิงใส่หมวกกันน็อกสีขาว เสื้อแขนยาว กางเกงสีน้ำเงิน ขับรถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 958 กทม. ไม่ทราบหมวดอักษร ส่วนคนร้ายคนที่ 2 ขี่รถตาม พบว่าใส่หมวกกันน็อกสีดำ สะพายกระเป๋าสีดำ สวมเสื้อนักศึกษา กางเกงสีน้ำเงิน ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อรุ่นเดียวกัน แต่สีแดง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบทะเบียนในขณะนี้ ส่วนกล้องของร้านค้าทั่วไปในละแวกจุดเกิดเหตุมีทั้งหมด 9 ตัว เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ กล้องเพิ่มเติม ส่วนการออกหมายจับนั้น ยังคงต้องรอพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความชัดเจนอีกซักระยะ

พ.ต.ท.สถิตย์กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่า คนร้ายใส่กางเกงสีน้ำเงิน ซึ่งมีสถาบันไม่กี่แห่งในพื้นที่ที่มีเครื่องแต่งกายลักษณะดังกล่าว และมีสถาบันอยู่แห่งเดียวที่เปิดเทอมแล้ว ตนจึงสั่งการให้ พ.ต.ต.สุรินทร์ ภู่ฤทธิ์ สว.สส.นำชุดสืบสวนไปที่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อสอบสวนว่าเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยหรือไม่

สำหรับกลุ่มเพื่อนผู้ตายหลังจากสอบปากคำให้การว่า ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับกลุ่มไหน และได้ให้ข้อมูลว่าเห็นกลุ่มนักเรียนคู่อริที่ย่านรามอินทรา กม.4 หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีเรื่อง จนกระทั่งวันนี้ ก่อนเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้ชักปืนขึ้นมาข่มขู่กลุ่มคนตายที่แถวสุขาภิบาล 5 ทำให้กลุ่มผู้ตายแตกกระเจิง และกลุ่มคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ไปเจอผู้ตายพอดี จึงยิงใส่แล้วหลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เมื่อคนร้ายขี่รถออกจากตลาดวงศกร น่าจะมุ่งหน้าไปทางสี่แยกหทัยราษฎร์ อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเพื่อหาเส้นทางหลบหนีที่แท้จริง พร้อมกับหาทะเบียนรถคนร้ายเพื่อจะได้นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

*ภาพจากเว็บไซต์ Voicetv