ตร.ภาค4ยึดรถหรู13คันนำเข้าผิดกม.

ตำรวจภูธรภาค 4 ตรวจยึดรถยนต์หรู 13 คัน ลักลอบนำเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย

พล.ต.ท. กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4  พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยายนต์ตำรวจภูธรภาค 4 แถลงผลตรวจยึดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามยึดมาได้จากพื้นที่ 12 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนรวมทั้งหมด 13 คัน มีรถยนต์ ยี่ห้อ เมอร์ซิเดสเบนซ์จำนวน 5 คัน  รถยี่ห้อ บีเอ็มดับเบิลยู 1 คัน รถยี่ห้อ โตโยต้า อัลพาท 2 คัน และรถนิสสัน คิวบ์ 3 คัน รถยี่ห้อโฟล์ค รุ่น บีเทิล 1 คัน ทั้งหมดไม่มีเอกสารหลักฐานการครอบครองสิทธิ์และเอกสารการชำระภาษีที่ถูกต้อง

พล.ต.ท. กวี  ผบช.ภ.4  กล่าวว่า ปัจจุบันมีกลุ่มบุคคลและขบวนการลักลอบนำรถหรูราคาแพง นำเข้าโดยหลบเลี่ยงภาษีศุลกากรเข้ามาในประเทศ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีจากรถหรูที่ลักลอบนำเข้า จึงต้องมีการกวดขันจับกุม ซึ่งรถยนต์ทั้งหมดที่ตรวจยึดมาได้นั้นมาจากนักธุรกิจชื่อดังในพื้นที่ภาคอีสานซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อเอาผิดตามกฎหมาย

"พื้นที่ 12 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 4 ชุดเฉพาะกิจฯได้ลงพื้นที่ตรวจยึดรถหรูราคาแพงยี่ห้อต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ยึดได้จากนักธุรกิจในภาคอีสาน ราคาประมาณคันละ 2 ล้านถึง 8 ล้าน เจ้าของรถทั้ง 13 คัน จะมีความผิดทางกฏหมายศุลกากร และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดพบว่าเป็นรถหลบเลี่ยงภาษีศุลกากร ก็จะส่งมอบรถทั้งหมดให้ศุลกากรนำไปตรวจสอบ เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนก็จะมีการประมูลขาย เอาเงินให้รัฐ"พล.ต.ท.กวี กล่าว

ทั้งนี้รถยนต์ทั้งหมดจะมีการตรวจสอบรายละเอียดเอกสารหลักฐานว่าเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับขบวนการค้ารถหรูในเขตพื้นที่ จ.ศรีษะเกษ ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้จากข้อมูลที่ตรวจสอบได้ในเบื้องต้นไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างไรจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง