posttoday

จับแก๊งมอดไม้พะยูง มูลค่ากว่า3ล้านบาท

01 มิถุนายน 2556

เจ้าหน้าที่ภูสิงห์สนธิกำลังดักจับแก๊งมอดไม้พะยูงขณะเตรียมลำเลียงส่งนายทุนมูลค่าส่งออกกว่า 3ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ภูสิงห์สนธิกำลังดักจับแก๊งมอดไม้พะยูงขณะเตรียมลำเลียงส่งนายทุนมูลค่าส่งออกกว่า 3ล้านบาท

วันที่ 1 มิถุนายน 2556 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังหลังได้รับรายงานจากสายว่าจะมีแก๊งมอดไม้พะยูงจะลักลอบขนไม้พะยูงที่บริเวณทางทิศใต้ห่างหมู่บ้านลุมพุกหมู่ที่2ตำบลโคกตาล อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ประมาณ2กิโลเมตรบนสันเขื่อนห้วยโอตะลัต ป่าฝั่งขวาห้วยศาลา ทางเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอภูสิงห์ จึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ นำโดยนายสรศิริ บุตรดี ปลัดป้องกันอำเภอภูสิงห์พ.ต.ท.ศรี เขตดอน สารวัตรป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรภูสิงห์
จำนวน20นายทำการดักซุ่มบริเวณดังกล่าวตามที่ได้รับรายงานจากสายข่าว

จนกระทั่งเวลา 06.00 น. พบรถต้องสงสัย 2คันวิ่งตามกันมาคันแรกเป็นรถยี่ห้อโตโยต้า ไมตี้เอ๊กซ์ สีบรอนด์เงินหมายเลขทะเบียน บท 6375 ศรีสะเกษ วิ่งนำหน้า และรถยี่ห้อมาสด้า สีน้ำเงินแค็ป หมายเลขทะเบียน ผน 1918 นครราชสีมาวิ่งตามหลังกันมามีคนนั่งบนรถจำนวน 5 คน เจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจค้นพบท้ายรถกระบะโตโยต้า มีผ้าใบปิดอย่างมิดชิด เมื่อเปิดผ้าใบออกพบไม้พะยูงท่อน ประมาณ 5 ท่อน ขณะตรวจรถคันแรก รถกระบะมาสด้าที่วิ่งตามหลังมาได้ทำการโยนไม้พะยูงทิ้ง 2ท่อนห่างจากจุดตรวจขอค้นประมาณ 50 เมตร

ทราบชื่อคนขับรถยี่ห้อโตโยต้า คือนายบุญจันทร์ นิเดชชัย อายุ55 ปี อยู่ที่ 125 หมู่ที่10 บ้านทุ่งหลวง ตำบลห้วยตึ๊กชู อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และนายบุญรักษ์ นิเดชชัย อายุ 23 ปี อยู่ที่ 243 หมู่ที่10 ตำบลเสาธงชัย จังหวัดศรีสะเกษ ส่วนคนขับรถมาสด้า ที่มีคนนั่งมาด้วย 5คน คือนายภัควัตน์ สร้อยกระโทกอายุ 39ปี อยู่ที่ 97 หมู่ที่ 1 ตำบลครบุรี  จังหวัดนครราชสีมา นายวัชพร พันธ์ทอง อายุ39ปี อยู่ที่ 160 หมู่ที่10 บ้านทุ่งหลวง ตำบลห้วยติ๊กชู อำเภอภูสิงห์นายบุญร่วม นิเดชชัย อายุ39ปี อยู่ที่ 160ห มู่ที่10บ้านทุ่งหลวง ตำบลห้วยตึ๊กชู อำเภอภูสิงห์ และพบเป็นเด็กชายอีกจำนวนสองคน

เจ้าหน้าทำการตรวจสอบตามเส้นทาง ห่างจากจุดที่ซุ่มตรวจออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร พบกระท่อมอยู่ท้ายเขื่อนมีร่องรอยการชักลาก ตรวจค้นพบไม้พะยูงอีก10ท่อน ซุกซ่อนในป่า ตรวจสอบในกระท่อมพบปืนแก๊ป 2 กระบอก รถเข็นไม้ที่เพิ่งผ่านการใช้งาน 2คันและเลื่อยขนาดความยาวประมาณ1.50เมตร จำนวน1ปื้น จึงทำการยึดเป็นของกลางเป็นหลักฐาน

เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ศก.4 ตรวจวัดปริมาตร ได้ 1.10 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าการส่องออก กว่า 3 ล้านบาท นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรภูสิงห์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.