posttoday

กรีนพีซยันไม่เอาถ่านหินแก้ไฟดับภาคใต้

23 พฤษภาคม 2556

กลุ่มกรีนพีซ แถลงการณ์ย้ำการแก้ปัญหาไฟฟ้าดับในภาคใต้ เชื้อเพลิงถ่านหินไม่ใช่คำตอบ ยังมีพลังงานทางเลือกอีกมาก

กลุ่มกรีนพีซ แถลงการณ์ย้ำการแก้ปัญหาไฟฟ้าดับในภาคใต้ เชื้อเพลิงถ่านหินไม่ใช่คำตอบ ยังมีพลังงานทางเลือกอีกมาก

กลุ่มกรีนพีซ ได้ออกแถลงการณ์ ไฟฟ้าดับทั่วใต้ กรีนพีซยัน "ถ่านหินไม่ใช่คำตอบ" โดยเนื้อหาระบุว่า เหตุการณ์ไฟฟ้าดับที่ผ่านมาซึ่งส่งผลให้ประชาชนมากกว่าแปดล้านคนในจังหวัดภาคใต้ตกอยู่ในความมืดนั้น รัฐบาลไม่ควรใช้เป็นข้ออ้างในการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มเติม

จากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมานั้น ทำให้หลายพื้นที่ใน 14 จังหวัดภาคใต้  รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น เกาะสมุย และภูเก็ต ตกอยู่ในความมืด ซึ่งภาครัฐได้ชี้แจงว่าเหตุเกิดจากการขัดข้องของระบบสายส่งไฟฟ้า

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวอ้างว่า นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า กฟผ. ไม่มีทางเลือกอื่น ต้องเดินหน้าการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ต่อไป

โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ขนาด 800 เมกะวัตต์ ที่มีแผนผลิตไฟเข้าระบบให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2562 นั้น  กำลังอยู่ในระหว่างการทำประชาพิจารณ์ รวมถึงยังมีการคัดค้านจากชาวบ้านทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ และยังถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของโครงการและผลกระทบต่อระบบนิเวศในพื้นที่ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์มาก

“กฟผ. ไม่ควรเหมาเอาว่าควรต้องมีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเท่านั้น โดยอ้างว่าประเทศไทยไม่มีทางเลือก” พลาย ภิรมย์ ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ ประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

“เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของระบบการจ่ายไฟ ดังนั้นการที่ไฟฟ้าดับในครั้งนี้จึงไม่เกี่ยวกับการที่กำลังการผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนตามที่ กฟผ. กล่าวอ้าง ที่จริงแล้ว กฟผ. ควรตระหนักถึงจุดอ่อนของการผลิตไฟฟ้าแบบรวมศูนย์ที่มีความเสี่ยง และเน้นพัฒนาการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและการผลิตแบบกระจายศูนย์  เราต้องการกระบวนการวางแผนพัฒนาพลังงานที่โปร่งใส และพลังงานไฟฟ้าที่ไม่สร้างมลพิษ ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ วิถีชีวิตของผู้คน รวมถึงสภาพภูมิอากาศ” พลาย ภิรมย์ กล่าวเพิ่มเติม

กรีนพีซเสนอให้รัฐบาลไทยยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน และมุ่งสู่การใช้ศักยภาพพลังงานหมุนเวียนของไทยที่มีอยู่อย่างเพียงพอ ทั้งนี้ ระบบผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์จะทำให้เกิดประสิทธิภาพด้านการกระจายพลังงาน ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลสกปรก และสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างแท้จริง