posttoday

ปาระเบิดขวดเผาจยย.ของกลางวอด 14 คัน

21 พฤษภาคม 2556

โรงพักพัทลุง ป่วน! มือดี ปาระเบิดขวด เผารถ จยย.ของกลางวอด 14 คัน

โรงพักพัทลุง ป่วน! มือดี ปาระเบิดขวด  เผารถ จยย.ของกลางวอด 14 คัน 

พ.ต.อ. ชวลิต  ปานทอง  ผกก.สภ.เมือง  พัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบร่องรอยเพื่อหาพยานหลักฐาน  หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อเวลา  02.50 น.   ของวันที่ 21 พฤษภาคม 2556    ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนปาระเบิดขวดข้างกำแพงลวดสายหนาม สภ.เมืองพัทลุง เข้าเผาทำลายรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นของกลางจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในคดีต่างๆพักไว้บริเวณหลัง สภ.เมืองพัทลุง ทำให้เกิดไฟไหม้เผาทำลายรถจักรยายนต์ของกลางไปจำนวน 14 คัน  โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเข้าประจำเวรประสบเหตุ ก่อนที่ไฟจะลุกลามไปยังรถจักรยานยนต์คันอื่นที่จอดไว้เกือบ 200 คัน และก่อนที่จะเกิดไฟไหม้ สภ.เมืองพัทลุง
 
พ.ต.อ.ชวลิต  กล่าวว่า   เข้าตรวจสอบพบเศษแก้วตกอยู่บริเวณที่รถจักรยานยนต์ถูกเผาทำลาย ซึ่งคาดว่าเป็นขวดที่บรรจุน้ำมัน   ซึ่ งคนร้ายได้ปาระเบิดขวดข้ามกำแพงลวดสายหนามเข้ามา และบริเวณที่เก็บของกลางดังกล่าวอยู่กับถนนซึ่งง่ายต่อการขว้างปาระเบิดเข้ามา
 
ในการก่อเหตุในครั้งนี้คาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มวัยรุ่นที่คึกคะนอง และไม่พอใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่กวดขันจับกุม  และขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อทำการจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ พร้อมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าประจำเวรยานตรวจสอบรอบบริเวณ สภ.เมืองพัทลุง อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันคนร้ายกลับมาปาระเบิดเผาทำลายอีก
 
“ส่วนเหตุการปาระเบิดขวดเผาทำลายรถจักรยานยนต์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้อย่างแน่นอน”ผกก.สภ.เมือง  พัทลุงกล่าว

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบริเวณด้านหลังและด้านข้าง สภ.เมืองพัทลุง ซึ่งเป็นที่เก็บรถจักรยานยนต์ของกลางนั้น   ไม่มีกล้องวงจรปิด   ไม่สามารถบันทึกคนร้ายได้และง่ายต่อการก่อเหตุ
และในขณะเดียวกันประชาชนทั่วทั้งจังหวัดพัทลุง   ต่างวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนโยบายกวดขันการจราจร โดยมีการตั้งด่านตรวจจับกุมทุกวัน  ตั้งแต่หมวกกันน็อค  ใบขับขี่  ทะเบียนรถ  และคดีจราจรอื่น ๆ  ซึ่งหากไม่มีการต่ออนุญาต  หมดอายุ  จะถูกปรับ 200 บาท  ขึ้นไป โดยสถานีตำรวจบางแห่งตั้งเป้าไว้อยู่ที่ปริมาณจับวันละ 30 คัน และบางสถานีจะจะต้องได้เงินค่าปรับ 10000 บาท เป็นต้น.